POLITICS

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ‘อ่อง กิม วาห์’ ค่าหัว 1 ล้านบาท!

หลังพบนำเข้าไอซ์ 4.4 ตัน โคเคน 12 ตัน พร้อมยึดทรัพย์ กว่า 418 ล้านริงกิตมาเลเซีย

วันนี้ (11 ม.ค. 67) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ฝ่ายสืบสวนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรจปราบปรามยาเสพติด ควบคุมตัว นายอ่อง กิม วาห์ สัญชาติมาเลเซีย อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา 358/2566 จาก สปป.ลาว ส่งให้กับทางการไทย ในความผิดฐาน ร่วมกันค้ายาเสพติด โดยจับได้เมื่อวันที่ 28-29 ธ.ค. 66

นายอ่อง กิม วาห์ ถือเป็นผู้บงการคนสำคัญในการจัดหายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และส่งออกผ่านประเทศไทย ไปยังประเทศมาเลเซีย ก่อนกระจายออกไปในทวีปเอเชีย และยุโรป โดยร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ และ สปป.ลาว และใช้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน รวมถึงใช้เป็นช่องทางและเส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านไทยไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน ออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งทำมานานกว่า 17 ปี จนกระทั่งทางการสืบสวนของ ป.ป.ส. สืบจนทราบว่า นายอ่อง กิม วาห์ ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปยัง สปป.ลาวทางการไทยจึงได้ประสานกับทางการลาว เพื่อให้จับตัวอ่อง กิม วาห์ ก่อนส่งมอบให้ประเทศไทยดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาในเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมผู้แทนจาก บช.ปส. และ หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) จะร่วมแถลงข่าวผลการควบคุมตัวนายนายอ่อง กิม วาห์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญ

คดีนี้สืบเนื่องจากทางการลาวได้ตรวจยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด เมื่อเดือน พ.ย. 66 ที่ผ่านมา รวมทั้งจับผู้ต้องหาเป็นชาวลาว 4 ราย และคนไทย 1 ราย จากนั้นทางการไทยได้ทำการขยายผลเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 66 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับเพิ่มได้อีก 2 รายขณะกำลังหลบหนี ในพื้นที่จังหวัดสงขลา จากนั้นทางการไทยได้มีการขอความร่วมมือกับทางการลาวในการส่งตัวผู้ต้องหารายสำคัญทั้ง 48 ราย โดย ป.ป.ส. ได้ติดตามตัวสอบสวนพฤติกรรม นายอ่อง กิม วาห์ ตั้งแต่ปี 49 และพบว่าเป็น อาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ ที่มีบทบาทเป็นผู้จัดหาและประสานงานการค้ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ

ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน มีการจับผู้กระทำผิดและยึดยาเสพติดในเครือข่ายของนายอ่อง กิม วาห์ ในไทยและมาเลเซีย รวม 11 คดี ผู้ต้องหา 35 คน ยาเสพติดของกลาง ไอซ์ 4.4 ตัน เฮโรอีน 493 กิโลกรัม และโคเคน 12 ตัน ซึ่งคดีส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ทั้งนี้ทางการมาเลเซียได้ยึดทรัพย์สินของเครือข่ายนายอ่อง กิม วาห์ ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์กว่า 320 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 418 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือเป็นเงินไทยกว่า 4 พันล้านบาท และกำลังดำเนินการตรวจยึดบริษัทของบุคคลในเครือข่ายอีก 8 แห่งต่อไป

สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในไทยและนำไปสู่การออกหมายจับนายอ่อง กิม ว่าห์ ในครั้งนี้นั้น คือเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จับผู้ต้องหา 7 คน ยึดไอซ์ 998 กิโลกรัม ที่ จ.ราชบุรี จากข่าวการสืบสวนและการสอบสวนได้พยานหลักฐานพบว่า นาย อ่อง กิม ว่าห์ เป็นตัวการสำคัญผู้อยู่เบื้องหลัง จึงได้มีการขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และปรากฏข้อมูลว่านายอ่อง กิม วาห์ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว ต่อมาวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ได้ตรวจค้นสถานที่ 8 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใน 4 จังหวัดคือกรุงเทพมหานคร จ.ตราด จ.เชียงราย และ จ.ชลบุรี ทำการยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิเช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง คอนโดมิเนียม 2 ห้อง เรือยอร์ช 3 ลำ รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก อาวุธปืนยาว 2 กระบอก เงินสด 275,000 บาท อายัดเงินในบัญชีธนาคาร 10 บัญชี ยอดเงิน 1,542,080 บาท และทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่ากว่า 85 ล้านบาท

Related Posts

Send this to a friend