‘สมชัย’ ห่วงประชาชนมองรัฐสภาทำงานไม่เสร็จ เตรียมเช็คชื่อคนขาดประชุมหอบร้อง ปปช.
เสียดายกฎหมายลูกที่ กมธ. ปรับแต่งไว้ตกไป ชี้นายกฯ ยังนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ หากมีผู้ยื่นร้องศาลวินิจฉัยก่อน มองพรรคต้องปรับตัว-รัฐบาลมีหลายทางแก้ก่อนเลือกตั้งสมัยหน้า
วันนี้ (15 ส.ค. 65) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) (ฉบับที่ …) พ.ศ. … กล่าวภายหลังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุม จนเป็นผลให้ร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ตามที่กรรมาธิการแก้ไขมานั้นตกไป
นายสมชัย กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ว่า กรรมาธิการฯ ประชุมมากว่า 19 ครั้ง ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อรัฐสภาเห็นว่าสูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อหารด้วย 100 ไม่ถูกต้อง ก็ให้กรรมาธิการฯ แก้ไขใหม่ เมื่อหาร 500 รัฐสภาลงมติแล้วก็ให้การบ้านกรรมาธิการฯ กลับไปทบทวน แต่ท้ายที่สุด รัฐสภาก็ทำให้ตกไป ทั้งที่กรรมาธิการฯ ได้ปรับแต่งให้ดูดีขึ้นมามาก ต่างจากร่างของ ครม. ที่ไม่มีจุดเด่นมากมายนัก
นายสมชัย กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากนี้ที่ร่าง พ.ร.ป. ฉบับนี้เกิดกำหนดกรอบเวลาพิจารณาว่า ประธานรัฐสภาจะส่งให้องค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามกรอบเวลา 10 วัน ให้ กกต. พิจารณาว่ามีอะไรขาดตกบกพร่อง ถ้าไม่ตอบกลับภายใน 10 วันนั้น เท่ากับ กกต. ให้ความเห็นชอบ แล้วประธานรัฐสภาจึงจะส่งร่างให้นายกรัฐมนตรีพักเรื่องรอไว้ 5 วันก่อนนำขี้นทูลเกล้าฯ ซึ่งระหว่างนั้นสมาชิกรัฐสภาอาจยื่นคำร้องผ่านประธานรัฐสภา โดยที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ถ้าขัดก็อาจแก้ไข หรือถ้าขัดในสาระสำคัญก็จะตกไปทั้งฉบับ
เมื่อถามว่าหากตกไปทั้งฉบับแล้วเริ่มต้นใหม่จะทันไหม นายสมชัย ยอมรับว่า เวลามันจะเคลื่อนไปเรื่อย กว่าจะยื่นศาล กว่าศาลจะตัดสินก็อาจใช้เวลาถึง 2 เดือน ก็ใกล้เลือกตั้งเรื่อย ๆ ถ้าศาลเห็นว่าผิด รัฐบาลต้องดูว่าจะทำอย่างไร แก้ พ.ร.ป. ฉบับนี้ใหม่ไหม หรือแก้ พ.ร.ป. พร้อมแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ทุกอย่างจบ หรือจะออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ใช้แทน ซึ่งจะเป็นเช่นนี้หากมีการยุบสภาด้วย จึงจะเห็นว่ารัฐบาลมีหลายทางแยกที่ทำได้ในอนาคต
นายสมชัย ยังกล่าวถึงความปรับตัวของพรรคเสรีรวมไทยว่า พรรคการเมืองทุกพรรคก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์และกติกาที่เกิดขึ้น เราก็มีวิธีการหาผู้สมัครระดับเขตที่มีชื่อเสียง ซึ่งก็อาจกระทบกับบัญชีรายชื่อ แต่ก็ไม่ใช่จุดหลัก พรรคกำหนดวิธีการได้ จึงไม่เป็นห่วงเรื่องนี้
“แต่จะเป็นห่วงความรู้สึกประชาชนต่อสถาบันรัฐสภาว่าเหมือนทำงานไม่เสร็จ ไม่เลือกดำเนินตามทางที่ควรจะเป็น แต่เลือกเดินทางที่สั้นและเร็ว แม้ประธานรัฐสภาทำหน้าที่ได้ถึงที่สุดแล้ว สมาชิกไม่ให้ความร่วมมือ” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ นายสมชัย ยังเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อสมาชิกรัฐสภา ที่ไม่แสดงตนในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา ทั้งการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรับเป็นพินัย ร่าง พ.ร.บ. ระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม และร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ คงต้องมีคำตอบให้กับประชาชน และกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หากมีคำถามมา หลังจากที่จะยื่นคำร้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอีกด้วย
