POLITICS

‘เพื่อไทย’ เตรียมใช้เวทีสภา ยื่นญัตติด่วน-กระทู้-ซักฟอก เล็งยื่น ป.ป.ช. เอาผิดซ้ำ

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ นายวิสุทธิ์ ไชณรุณ ประธานคณะทำงานด้านนโยบายด้านวางระบบเกษตรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ พรรคเพื่อไทย  แถลงแนวทางการดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมปศุสัตว์ กรณีที่ปล่อยปละละเลยหรือมีพฤติกรรมปกปิดปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์​แอฟริกา​ใน​สุกร​ (African swine fever : ASF) ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดปัญหาหมูล้มตายจำนวนมากและหมูขาดตลาด จนราคาหมูพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาหมูแพงและโรคระบาดในสุกรเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถนำไปสู่การล้มรัฐบาล เนื่องจากได้มีการปล่อยปละละเลยและมีพฤติกรรมในการปกปิดปัญหาโรคระบาด จนสร้างความเสียหายต่อเกษตรกร พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาทันทีที่สภาเปิดและจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการสร้างความเสียหายดังนี้ 

  1. ยื่นญัตติด่วนต่อสภา เพื่อให้พิจารณาหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร พร้อมทั้งถามหาความรับผิดชอบจากนายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งตั้งกระทู้ถามสดถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้มีคำตอบที่ชัดเจนว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร และที่ผ่านมาใครเอาเท้าเหยียบไว้ถึงไม่สามารถบอกได้ถึงการระบาดของโรคในสุกร 
  2. ข้อมูลความผิดปกติเกี่ยวกับปัญหาโรคระบาดในสุกร จะอยู่ในญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะดำเนินการยื่นต่อสภาอย่างแน่นอน
  3. หากกรณีนี้ไม่มีความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ พรรคจะพิจารณายื่นเรื่องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้มีการตรวจสอบและสอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ร่วมกันก่อความเสียหายต่อบ้านเมืองในครั้งนี้ นอกจากนี้ในส่วนของข้าราชการประจำที่ร่วมกันปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายก็จะมีการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรนั้นพรรคเพื่อไทยได้เรียกร้องมาตลอดให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไข แต่ที่ผ่านมารัฐบาลกลับนิ่งเฉย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในที่ประชุมสภาเรื่องการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ และคำตอบก็ไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการยอมรับว่ามีการระบาดของโรค ต่อมา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ซึ่งติดตามปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่องก็ได้พยายามนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2564 แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-10 สายพันธุ์โอมิครอน

นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบย้อนหลังไปก็พบว่า ในเดือนเมษายน 2562 นายกฤษฎา บุญราช ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีประกาศถึงปัญหาการระบาดของอหิวาห์แอฟริกาในสุกรให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่รัฐบาลกลับไม่ทำอะไรเลย แล้ววันนี้ก็มีหลักฐานออกมาชัดเจนถึงความพยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรค เพราะมีหนังสือของภาคีคณบดีคณะสัตว์แพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ถึงอธิบดีกรมปศุสัตว์ เตือนถึงการระบาดของโรคนี้ แต่ภาครัฐกลับนิ่งเฉย ดังนั้นจึงต้องถามไปยังรัฐบาลว่าที่ไม่ยอมรับว่าการกระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรนั้น เพราะกลัวที่จะต้องเยียวยาให้กับเกษตรกร หรือต้องการปกปิด เพราะต้องการทำลายล้างเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงหมู แล้วเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องมีผู้รับผิดชอบความเสียหาย ทั้งต่อเกษตรกรและความรับผิดชอบทางการเมือง โดยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องตอบให้ได้ว่า ไปอยู่ไหนมาถึงไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร  เพราะหเหตุใดจึงปล่อยปละละเลยจนเกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องเกษตรกรและประชานชน หรือเป็นความพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์พวกพ้อง โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ยอมบอกความจริงปกปิดซ่อนเร้นการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) หรืออหิวาต์ในสุกร  โดยยืนยันได้จากหนังสือราชการด่วนที่สุดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ส่งถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564  เรื่องขอเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่าต่อสำนักงบประมาณ และสำนักงบประมาณ โดยได้ส่งหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้อนุมัติงบประมาณที่ 140.2 ล้านบาท 

จากนั้นในวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์ในสุกร  ในรายละเอียดคือได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงการคลัง มหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ เร่งรัดตรวจสอบทำลายสุกรและหมูป่าที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรค

จากนั้นในวันที่  22 ธันวาคม 2564 สำนักงบประมาณ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องที่กรมปศุสัตว์ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า เป็นเงินงบประมาณ 1,779.8 ล้านบาท เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์ในสุกร โดยสำนักงบประมาณได้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรี  และนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบงบประมาณทั้งสิ้น 574.2 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นค่าชดใช้สุกรที่ถูกทำลายจากโรคระบาด

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า จากเอกสารทั้งหมดรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์  จะปฏิเสธว่าได้อย่างไรว่าไม่ทราบเรื่องโรคอหิวาต์ในสุกร  เบิกเงินงบประมาณแผ่นดินออกมา แต่ปกปิดการระบาด  สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก พร้อมกับขอเสนอ

1.ปฏิวัติกรมปศุสัตว์ทั้งระบบ โดยตั้งแต่โรคลัมปีสกิน พรรคเพื่อไทยได้สะท้อนความเดือดร้อนของรัฐบาลบกพร่องความเสียหายจากลัมปีสกินจนลามมาถึงสัตว์ป่าติดเชื้อวันนี้ และจนถึงวันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคไม่ได้รับการชดเชยจากภาครัฐ

2.ปรับโครงสร้างการเลี้ยงสุกร โดยบริหารแบบ managment คือการบริหารจัดการป้องกันโรค  จัดระบบฆ่าเชื้ออย่างจริงจังทุกจุด  หาก 3 ปีที่ผ่านมาของการรับาดอหิวาต์ในสุกร รัฐบาลยอมรับความจริง จะสามารถป้องกันโรคได้  แต่สุดท้ายตอนนี่หมูตายยกคอก  เกษตรกรหนี้สินล้นพ้นตัวและอยากฆ่าตัวตาย

3.ฝ่ายการเมืองต้องใส่ใจมากกว่านี้ ครั้งก่อนรัฐบาลรับเรื่องลัมปีสกินไว้ บอกไว้ว่าจะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ  แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลวอร์รูมหรือไม่  มีห้องแลป หรือ ทีมติดตามผลหรือไม่  จึงอยากให้รัฐบาลมีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่านี้  อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกมารับผิดชอบ  ยอมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชน  วันนี้ความเสียหายเฉพาะฟาร์มหมูเกินกว่า 2 แสนล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายของประชาชนที่ต้องซื้อหมูในราคาแพง  ความเสียหายจากการส่งออกสินค้าหมูแปรรูปไม่ได้และถูกตีกลับทั้งหมด เช่น ไต้หวันส่งกลับกุนเชียงไทย เป็นต้น

4.เป็นความเสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง  รัฐบาลไม่ได้โกหกเพียงแค่เกษตรกรในประเทศ แต่ประเทศไทยกำลังโกหกคนทั้งโลก  35 ประเทศทั่วโลกยอมว่าเกิดโรคระบาดนี้  แต่ประเทศไทยโกหกคนทั้งโลกมาถึง 3 ปี เหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงปล่อยให้ชื่อเสียงเกียรติภูมิประเทศไทยตกต่ำ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า การระบาดของโรคอหิวาต์ในสุกร  พรรคเพื่อไทยนำเสนอและบอกกล่าวต่อรัฐบาลในเรื่องนี้มาโดยตลอด  แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังบอกว่าไม่มีโรคระบาด ไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เอาแต่สั่งการ แต่ไม่รู้ว่าได้ปฏิบัติเพื่อการแก้ไขจริงหรือไม่  ข้อผิดพลาดอยู่ที่รัฐบาลปฏิเสธ เห็นทุกเรื่องเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องธรรมชาติ

“คนไทยเข้าสู่ยุคของแพงแต่ชีวิตประชาชนราคาถูก ค่าครองชีพ ค่าจ้างแรงงานลดต่ำลง นี่คือปัญหาวิกฤตและความไม่สบายใจของพรรคเพื่อไทยที่มีต่อพี่น้องประชาชน” นางสาวธีรรัตน์กล่าว

Related Posts

Send this to a friend