POLITICS

‘นิพนธ์’ ยัน ปชป.อยู่มาถึง 77 ปีด้วยอุดมการณ์ ยอมรับเสียใจที่มีคนออก แต่ไม่เสียดาย

‘นิพนธ์’ ยัน ปชป.อยู่มาถึงปีที่ 77 ได้ด้วยอุดมการณ์ ยอมรับเสียใจที่มีคนออกไปแต่ไม่เสียดาย เชื่อผู้บริหารนำพาพรรคไปสู่เป้าหมายได้แน่นอน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าว นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมย้ายพรรคว่าไม่ขอแสดงความเห็นอะไร ในความคิดของแต่ละคนว่าใครคิดจะอยู่กับพรรคหรือไปจากพรรค ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูแลทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนที่อยู่ในพรรค การที่จะไปอยู่พรรคอื่น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่ตัดสินใจ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ผมยืนยันได้ว่าพรรคให้โอกาสกับคนทุกคน เหตุการณ์นี้เราเคยประสบมาแล้ว แม้ว่าจะมีพรรคบางพรรค ที่จ้องพยายามที่จะนำเอาคนในพรรคประชาธิปัตย์ไป เพื่อทำให้พรรคดูไม่มีความมั่นคงและอ่อนแอ คิดว่าเขาจ้องจะทำลายพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้แน่นอน เรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ของพรรคประชาธิปัตย์ในวันข้างหน้า และเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งที่ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 77 พรรคไม่ได้ฝากอนาคตไว้กับคนใดคนหนึ่ง เมื่อคนรุ่นนี้จากไปคนรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้น พรรคก็จะมีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น ถือเป็นการถ่ายเลือดครั้งใหญ่อีกครั้งของพรรค ถ้าเกิดขึ้นตามข่าว

โดยส่วนตัวไม่ประสงค์ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในเวลาอย่างนี้ พรรคต้องการทุกคนช่วยกันสร้างกอบกู้พรรคจากวิกฤตนี้ ใครที่คิดไม่ดีกับพรรค จะเป็นบทพิสูจน์ในวันข้างหน้า อยากเห็นทุกคนมีความมั่นคงกับพรรค วันนี้พรรคเดินไปข้างหน้าถูกทิศถูกทางแล้ว เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามานำพาพรรคให้มีบทบาทมากขึ้น พรรคจะไม่กังวลกับเรื่องนี้ เราเตรียมคนพร้อมสำหรับเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางการเดินไปข้างหน้า แผนที่วางไว้ก็เดินไปถึงให้ได้ คิดว่าเวลาอย่างนี้ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน คาดว่ากรณี น.ส.รังสิมา จะไม่เป็นจริง หวังว่าทุกคนยังเป็นกำลังของพรรค ที่เน้นเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า “กรณีนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีกระแสข่าวว่า จะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ทราบจากข่าว เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.พิมพ์ภัทรา-น.ส.รังสิมา ได้มีการพูดคุยกับตนอยู่ ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็เป็นผู้อาวุโสแล้วในการเป็น ส.ส. 4-5 สมัย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว และพรรคเองเห็นว่า การคงอยู่ของพรรคเป็นเรื่องใหญ่กว่า การคงอยู่ของตัวบุคคล บุคคลจากไปได้ แต่พรรคต้องรักษาไว้ ตนเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแบกรับภารกิจนี้ได้ พรรคเคยผ่านวิกฤตแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว มองว่าคนที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปตั้งพรรคใหม่ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จแม้แต่คนเดียว”

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบภายในพื้นที่ของภาคใต้ อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารพรรค จะต้องไปเตรียมตัวบุคคลที่จะมาลงทดแทนในพื้นที่ เชื่อว่าจะมีคนทดแทนในพื้นที่ ถ้าหากว่าข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริง และทุกครั้งที่มีคนออกจากพรรค เมื่อถึงเวลาประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินทุกครั้ง ส่วนกระแสเลือดไหลออกไม่หยุดนั้น เรามีการจับตาเรื่องนี้มาตลอด ยอมรับไม่อยากให้เกิดขึ้น และเสียใจที่มีคนออกไป แต่ไม่เสียดาย ซึ่งเราก็ต้องมีแผนเตรียมรองรับสถานการณ์ไว้ ที่สำคัญที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ไม่มาติดกับดักอยู่กับคนนั้นคนนี้ลาออก ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างนี้ เมื่อคนอยู่ล้มลง ต้องมีคนใหม่มาแทนที่แบกภาระกิจของพรรคต่อไป

Related Posts

Send this to a friend