‘นพ.อำพล’ เผย ยึดหลักเสียงข้างมาก โหวตนายกฯ
‘นพ.อำพล’ เผย ยึดหลักเสียงข้างมาก โหวตนายกฯ มอง ส.ว. ไม่ควรมีอำนาจโหวตนายกฯ ขัดหลักประชาธิปไตย
วันนี้ (10 ก.ค. 66) นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค. นี้
นายแพทย์อำพล ระบุว่าส่วนตัวเตรียมโหวตให้คนที่พรรคการเมืองรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร เสนอชื่อ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศต่อไป โดยการโหวตนี้ ตนเองได้ใช้เหตุผลเดียวกันกับที่เคยใช้ตอนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งก็คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากการรวมเสียงขณะนั้น ฝั่งพลเอกประยุทธ์ มีเสียงข้างมากอยู่ คงต้องไปในทิศทางนั้นๆ
นายแพทย์อำพล ระบุต่อว่า ตนเองก็ไม่อยากใช้อำนาจตามบทเฉพาะกาล แต่เมื่อหน้าที่นี้ยังมีอยู่ ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป เพื่อให้กลไกและกติกาตามใช้อยู่เดินหน้าไปได้ ซึ่งที่เหลือก็คือหน้าที่ของบรรดาพรรคการเมืองในการรวบรวมเสียง ส่วนผลการโหวตนั้นบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจะได้หรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของกระบวนการโหวตในขณะนั้น
นายแพทย์อำพล กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ได้มีหน้าที่ในการจะต้องไปหาเหตุผลว่าบุคคลใดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการแสดงออกจาก ส.ว.บางคนก็ถือเป็นมุมมองที่เป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวและสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยที่แต่ละคนก็จะไม่เข้าร่วมความคิดของใคร แต่ส่วนตัวยังคงยืนยันคำเดิมว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็จะใช้หลักการเดียวกับปี 2562
ส่วนประเด็นที่มีคนอยากปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น นายแพทย์อำพล กล่าวว่า ครั้งนี้ ส.ว.ก็ถือว่าทำหน้าที่ตามบทเฉพาะกาล เพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ได้มีการวางกรอบไว้ในการทำหน้าที่ แต่ต้องเข้าใจว่ากระบวนการแต่ละอย่างในเรื่องของการลงมติการประชุมร่วมรัฐสภาโดยเฉพาะเรื่องของการผ่านกฎหมายต่างๆ จำเป็นที่จะต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 หรือก็คือต้องได้เสียง 84 เสียงขึ้นไป เมื่อเสียง ส.ว.ไม่ถึง 1 ใน 3 ก็ต้องไปตามหลักการ
นอกจากนี้ นายแพทย์อำพล ยังยืนยันด้วยว่า ส.ว. ไม่ควรมีหน้าที่และอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงเท่านั้น และทุกครั้งที่มีการขอแก้ไข ส่วนตัวจึงโหวตเห็นด้วยให้ปิดสวิตช์ ส.ว.
