POLITICS

โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ผลักดันความมั่นคงด้านพลังงาน

ส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการสำรวจแหล่งพลังงานในประเทศ เพื่อสร้างรายได้ เพิ่มการจ้างงาน โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งเสริมและเร่งรัดการสำรวจและพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติในประเทศ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศ พร้อมยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ราคาพลังงาน และปัจจัยต่าง ๆ จากภายนอกประเทศ เป็นผลกระทบ และความท้าทายสำคัญ ซึ่งประเทศไทยแม้จะไม่ใช่แหล่งผลิตพลังงานขนาดใหญ่ แต่ก็มีแหล่งพลังงานที่รอการสำรวจหลังจากที่ไม่ได้เปิดให้ทำการสำรวจมานานถึง 15 ปี โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ลงนามในประกาศเชิญชวนให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 บริเวณอ่าวไทย จำนวน 3 แปลง เพื่อเปิดการขยายช่องทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมไปถึงการต่อยอดด้านการลงทุน โดยภาครัฐเองจะมีส่วนร่วมในการอนุมัติแผนงานต่าง ๆ รวมไปถึงงบลงทุน ตลอดจนการดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ร่วมกับผู้ได้สัญญา

นายธนกรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งนี้จะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจและภาคการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถพัฒนาต่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้านหากสำรวจพบปิโตรเลียม ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศได้ในหลายรูปแบบ อาทิ ค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งกำไร ตลอดจนสร้างประโยชน์ให้พี่น้องคนไทยผ่านการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับประเทศ พัฒนาอาชีพให้คนไทย และการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแท่นผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รวมถึงภาคขนส่ง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้ง 3 แปลง อยู่บริเวณทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวท่อก๊าซที่มีอยู่เดิม และอยู่ใกล้กับพื้นที่ผลิตหลักที่ปัจจุบันมีการผลิตก๊าซธรรมชาติ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่อไปได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้การยื่นขอสิทธิเพื่อสำรวจแหล่งพลังงานในครั้งนี้จะเป็นไปตามขั้นตอน และกระทำอย่างเปิดเผย และโปร่งใส โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อเป็นการนำทรัพยากรของประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Related Posts

Send this to a friend