POLITICS

พลเอกประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ กับยุวทูตคุณธรรม

พร้อมออกตัวสังคมปัจจุบันต้องปรับตัว นายกฯก็ต้องปรับตัว ยันไม่ก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ – ตุลาการ ต่างทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด

วันนี้ (10 ก.พ. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาแกนนำเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นยุวทูตคุณธรรมในศตวรรษที่ 21 พร้อมกล่าวปาฐกถา “การเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรม ในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก” ว่า สังคมปัจจุบันต้องปรับตัว ลุงก็ต้องปรับตัว ไม่ใช่คนแก่ไม่รู้เรื่อง ขออย่าหาว่าโบราณ แต่ย้ำต้องมีหิริโอตัปปะ แล้วจะพูดได้เต็มปากไม่ต้องอ้อมแอ้ม ทั้งนี้ยันไม่ก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ – ตุลาการ เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อบ้านเมือง

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ แต่มีเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น มีปัญหาเยอะแยะมากมายทั้งโรคอุบัติใหม่ จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ของประเทศ ผมก็พยายามปรับเหมือนกัน อย่าหาว่าคนแก่ไม่รู้เรื่อง เราก็รู้เรื่องของเราในทักษะการบริหาร แต่ก็ต้องทำความเข้าใจเพื่อจะสานต่อ หากยุวชนว่าอยากเป็นแบบนี้ ก็ต้องพัฒนาตัวเอง วันหน้าในที่นี้ อาจจะเป็นนายกฯเหมือนผมก็ได้ใครจะไปรู้”

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลมีการทำงานที่ครบถ้วนอยู่แล้วในระบบบริหาร เพราะบริหารมาหลายปี หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้า หรือชอบบ้างอะไรก็แล้วแต่ แต่ก็ตั้งใจที่จะทำเพื่ออนาคตของประเทศไทย เดินไปข้างหน้า ภายใต้คำว่ามั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คำว่ามั่นคง คือมั่นคงในทุกมิติไม่ใช่เฉพาะการทหารอย่างเดียว ต้องมั่นคงในเศรษฐกิจสังคม ในเรื่องของความมั่งคั่ง คือความมั่งคั่งของประเทศ จะทำอย่างไรให้ทุกคนเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดี รัฐบาลพยายามแก้ไขตรงนี้ อย่างเช่นบ้านเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งมีทุกประเทศ ทั้งเรื่องประชาธิปไตยและการค้าเสรี มีทั้งคุณทั้งโทษ ไม่เช่นนั้นคนคงไม่ใช้ระบบนี้เยอะ ระบอบประชาธิปไตยการค้าเสรี ก็ถือว่าดีกว่าระบบอื่น เราจะต้องทำแบบของเราให้ดีที่สุด

ส่วนเรื่องความพอเพียงใช้เท่าที่จำเป็น โดยต้องยึดความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี นั่นคือความรู้และคุณธรรม ต้องมาผสมกับเรื่องศาสนา หิริโอตัปปะ ความละอายเกรงกลัวต่อบาป ไม่มีใครรู้เรารู้ ต้องทดสอบตัวเองเสมอ ความต้องการต่างๆเราอย่าไปเบียดเบียนคนอื่น อย่าไปทำอะไรที่ไม่สุจริต ทำอะไรก็พูดกับใครได้เต็มปาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยดีกว่าต่างประเทศ ไม่มีภูเขาไฟ ไม่อยู่ใกล้รอยแตก รอยเลื่อนมากนัก มีอยู่บ้างทางตอนเหนือ ยังไม่มีผลกระทบกับเรา แต่ก็อย่าประมาท หลายคนมีชีวิตอยู่บนโลก หลายเรื่อง ถ้าสั่งแก้ได้ก็แก้ทันที ทั้งหมดอยู่ในแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ผมทำคนเดียวไม่ได้ทุกคนต้องช่วยกัน เรื่องการใช้อำนาจ ผมก็เบื่อการใช้อำนาจเราต้องใช้ความร่วมมือ ไม่ต้องบังคับ ทั้งหมดวันนี้ยังแก้ไม่ได้ เพราะเราอยู่กันแบบนี้ เราสามารถสร้างพลังทางสังคมได้ ในทางที่ก่อประโยชน์ ไม่ใช่ไปขัดแย้งอะไรกัน แน่นอนต้องมีอะไรที่ไม่ถูกใจบ้าง ผมไม่เคยรังเกียจใครทั้งสิ้น จะรักลุงหรือไม่ก็ช่าง แต่อยากให้ทุกคนรักประเทศไทยของเรา

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมภาพวาดที่รับมอบจากเยาวชน ที่มีชื่อว่า”แผ่นดินเดียวกัน” มีความสมัครสมานสามัคคี ต่อให้ผมสั่งอย่างไร หากพวกเราไม่ร่วมมือก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย มีแผนทั้งหมดแต่เราต้องร่วมมือกันทั้งหมด ผมไม่โทษใคร แต่เราต้องร่วมมือกัน พร้อมระบุว่าหากเยาวชน อยากดูการบริหารจัดการหน่วยงานต่างๆ อย่างไรขอให้เปิดดูในกูเกิ้ล ก่อนที่จะกล่าวว่าอย่าหาว่าผมโบราณ ต้องเรียนรู้ต้องอ่านหนังสือ ดูอย่างประเทศอื่นทุกอย่างดูอันที่เป็นประโยชน์บ้าง อะไรที่สนุกสนานผมไม่ว่า เพราะเป็นวัยของเรา แต่ต้องเปิดดูอะไรที่เป็นประโยชน์ดูบ้าง แม้กระทั่งดูโทรทัศน์มีเรื่องการเมืองมากผมก็ไม่ดู อะไรที่สร้างภาระให้คนอื่น มันเป็นความทุกข์ที่เราต้องช่วยกันแก้ รัฐบาลพยายามทำอยู่แล้ว กี่ลุงก็ทำไม่ไหวหาพวกเราไม่ช่วยกัน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไม่ได้หมายความว่าผมจะอยู่ 20 ปี แต่จะเป็นแนวทางในการทำงานคน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติด ที่หลายคนออหมาระบุว่าสมัยผม มียาเสพติดมาก แต่เป็นเพราะมีโซเชียลมีเดียค่อยเฝ้าระวัง ส่วนเรื่องการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ มีทั้งดีและไม่ดี เราเรียนรู้เพราะอะไรไม่ดี เราอย่าทำอีกนำมาเป็นบทเรียน การเรียนประวัติศาสตร์ วันนี้ไม่อยากให้เรียนแบบเดิมๆแบบท่อง แล้วสอบแต่ต้องเรียนด้วยความเข้าใจ เราลืมไม่ได้ ความเป็นวัฒนธรรมประเพณีของชาติ มวยไทยของเราก็คือมวยไทยนี่แหละ อย่าไปทะเลาะกับเขามากนัก ของเราสุดยอดอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า อย่าเพิ่งเบื่อผมนานๆเราคุยกันสักที หนูพูดอยู่คนเดียว นายกมีงานทั้งวัน ถ้าผมเสียสมาชิกกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมทำไม่ได้หรอก แต่วันนี้ดีใจว่าคนในห้องนี้เป็นครอบครัวอีกแล้ว ที่ได้พบกันกับคณะทำงานทุกคน อะไรไม่ดีช่วยกันแก้ แต่ก่อนจะด่าว่าใครเปิด Google ดูเสียก่อน เปิดไปเถอะขอให้อ่าน อะไรเป็นของราชการ นี่คือสิ่งที่เป็นหลักการหากไม่มีหลักการพูดอย่างเดียวสั่งอย่างเดียว คิดอย่างเดียวทำไม่ได้ อำนาจอีกส่วนอยู่ที่ไหน อำนาจนิติบัญญัติอยู่ที่ใคร อยู่ที่สภา ส.สในสภา คืออำนาจนิติบัญญัติ เราจะไปเข้าร่วมไม่ได้ อีกอันคืออำนาจอะไร อำนาจตุลาการ 3 อำนาจนี้คืออำนาจ ตามรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ต่างคนต่างทำหน้าที่อะไรเสริมได้ก็เสริม หากขัดแย้งอะไรก็ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่าไปยุ่งกับเขา ตุลาการอย่าไปยุ่งกับเขา แค่ชื่อก็น่ากลัวผมก็ไม่อยากเจอเหมือนกันแหละ ผมก็ไม่พยายามไปเกี่ยวข้องไปก้าวล่วงก็ทำหน้าที่ของเราให้สงบ ไม่เช่นนั้นก็วุ่นวายอยู่อย่างนี้ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะสภาจะบริหาร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด บ้านเมืองของเราก็จะดีขึ้น และเราก็อย่าไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่ถูกต้อง ไม่ต้องไปเดือดร้อนกับใครเขา

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึง นายจุติ ได้มีการกล่าวเพื่อทำความเข้าใจกับยุวทูต ว่า เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องการทำ เพื่อเตรียมเยาวชนเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 พร้อมยกตัวอย่าง สงครามยูเครน- รัสเซีย ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง สอดคล้องกับการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ และต้องพร้อมรับฟังความเห็นความแตกต่าง โดยไม่ทะเลาะกัน พร้อมอธิบายว่าการตั้งรัฐบาล ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารไม่เป็นความจริง แต่ตั้งที่นี่ นี่คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ปี 51 คุณมานั่งในห้องประวัติศาสตร์ นั่งในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เลือกนายกรัฐมนตรี คือนายอภิสิทธิ์

Related Posts

Send this to a friend