POLITICS

กลุ่ม ‘ทางกระต่าย’ ผลักดันแก้กฎหมายจราจร ปรับบทลงโทษ-บังคับใช้จริงจัง

กลุ่ม ‘ทางกระต่าย’ ยื่นหนังสือ ‘ก้าวไกล’-‘เพื่อไทย’ ดันแก้กฎหมายจราจรทางบก ปรับโทษฝ่าฝืน-บังคับใช้จริงจัง พร้อมออกแบบทางม้าลายที่ปลอดภัย

วันนี้ (10 ก.พ. 65) ณ อาคารรัฐสภา นพ.สิวดล พินิตความดี ตัวแทนกลุ่ม Rabbit Crossing/ทางกระต่าย และคณะ ยื่นหนังสือต่อ นางสาวเบญจา แสงจันทร์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล พร้อมทั้งต่อมายื่นหนังสือต่อ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง และ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ตามลำดับ เพื่อขอให้พรรคช่วยผลักดันการแก้กฎหมายให้ทางม้าลายปลอดภัยต่อประชาชน

นพ.สิวดล กล่าวว่า ปัจจุบันการตายและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนทางม้าลายมีมากกว่า 500 รายต่อปี และอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 55 ถือเป็นปัญหาทางการแพทย์และสาธารณสุขที่สำคัญยิ่ง แต่ที่ผ่านมาปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม จนเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้ากับหลาย ๆ ครอบครัว

“รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ที่เสียชีวิตจากการถูกรถจักรยานยนต์ชนในขณะข้ามทางม้าลาย ทางกลุ่มฯ จึงขอให้พรรคผลักดันให้มีการปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับทางข้ามโดยเฉพาะ และกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย รวมถึงผลักดันให้มีการลงโทษอย่างจริงจัง อันจะทำให้เกิดความยำเกรงและไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทางม้าลายปลอดภัยต่อประชาชน”

โดยทางกลุ่มฯ มีข้อเสนอ 5 ข้อ เพื่อการสร้างทางม้าลายที่ปลอดภัยแก่ประชาชนทุกคน ดังนี้

  1. ทางม้าลายต้องปลอดภัย โดยรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกแบบทุกทางม้าลายเป็นทางข้ามที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน อาทิ ทางข้ามมีความชัดเจนเห็นได้ในระยะไกล มีป้ายเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจนให้ผู้ขับขี่รับรู้ว่าเป็นทางข้าม และหากเป็นทางที่มีคนข้ามเป็นประจำหรือเป็นสถานที่สำคัญ เช่น โรงเรียน ต้องมีสัญญาณไฟจราจรรวมถึงมีปุ่มกดเพื่อขอข้าม และมีกล้องวงจรปิดในบริเวณทางข้ามที่มักมีการกระทำผิดบ่อยเพื่อบันทึกผู้กระทำความผิดและลงโทษอย่างจริงจัง
  2. หยุดรถให้คนข้าม โดยรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของการหยุดยานพาหนะให้คนข้ามทางม้าลาย ให้ประชาชนทุกคนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตามเป็นประจำ และทำการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำและสม่ำเสมอ
  3. บังคับใช้กฎหมาย กรณีผู้ขับขี่ไม่ลดความเร็วขณะขับยานพาหนะเข้าใกล้ทางม้าลาย หรือไม่หยุดยานพาหนะให้คนข้ามทางม้าลาย หน่วยงานรัฐและตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เดิม ลงโทษอย่างจริงจังและโดยสุจริต
  4. ออกกฎหมายใหม่ โดยแยกมาตราใหม่ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่กำหนดชัดเจนว่ากรณีผู้ขับขี่ไม่ลดความเร็วยานพาหนะขณะขับเข้าใกล้ทางม้าลาย หรือกรณีไม่หยุดยานพาหนะให้คนข้ามทางม้าลายมีความผิด และมีโทษอื่นนอกเหนือจากการปรับ อาทิ ตัดคะแนน บังคับให้เข้ารับการอบรม หรือพักการใช้ใบอนุญาตขับขี่
  5. ปรับบทลงโทษ โดยออกกฎหมายเป็นมาตราใหม่ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่กำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรงกับผู้ขับขี่ที่ขับชนคนข้ามทางม้าลาย ในลักษณะคล้ายกรณีผู้ขับขี่เมาแล้วขับชนคนอื่นตามมาตรา 160 ตรี ของพระราชบัญญัติจราจรทางบก ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

นพ.สิวดล กล่าวว่า ทางกลุ่มฯ ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนที่เห็นด้วยผ่านเว็บไซต์ จำนวนกว่า 45,000รายชื่อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการจะเห็นทางม้าลายที่ปลอดภัยต่อประชาชนคนไทยทุกคน
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นวาระสำคัญเนื่องจากปัจจุบันมีประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุในการข้ามทางม้าลายมีมากกว่า 500 รายต่อปี ถือเป็นสถิติที่สูงมาก และการที่ทางกลุ่มฯ ได้มีข้อเสนอต่าง ๆ นั้น นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยพรรคเพื่อไทยจะเร่งศึกษาและผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรม

ในขณะที่นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ กล่าวว่า จากการสูญเสียหมอกระต่ายในครั้งนี้จะต้องมีสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในเรื่องของทางม้าลาย โดยควรมีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้มีกติกาการข้ามทางม้าลายที่ผู้ข้ามจะทราบว่าควรข้ามเวลาใด และผู้ขับขี่รถสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมการในการแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว และจะเร่งผลักดันกฎหมาย รวมทั้งสร้างระเบียบวินัยและจิตสำนึกของประชาชนเพื่อความปลอดภัยในการข้ามทางม้าลายต่อไป

Related Posts

Send this to a friend