คปท. ประกาศ ชุมนุมค้างคืน หน้าทำเนียบ 12-14 ม.ค.นี้ ปม ’ทักษิณ‘
คปท.และเครือข่าย ประกาศ ชุมนุมค้างคืน หน้าทำเนียบ 12-14 ม.ค.นี้ ปม ’ทักษิณ‘ เตือนข้าราชการ ระวังตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง และติดคุก เหมือนคดีรับจำนำข้าว ด้าน ศปปส. ร่วมวงด้วย จี้ นำตัวทักษิณ ไปรับโทษคดี ม.112 จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ เมื่อปี 58
วันนี้ (10 ม.ค. 67) เวลา 13:00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ พร้อมด้วยนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับการนัดชุมนุมค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้เปิดเผยถึงความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 12-14 ม.ค. นี้
นายพิชิต เปิดเผยถึงสาหตุที่นัดหมายชุมนุม เพราะต้องการแสดงจุดยืน และส่งสัญญาณไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องที่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าทำการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจเป็นเวลา 139 วัน ซึ่งเกินจากที่ระเบียบกรทราชทัณฑ์กำหนดใน 120 วัน ที่จะต้องใช้ความเห็นของแพทย์ในการรักษาตัวต่อ
ทั้งนี้ นายพิชิต ได้ฝากเตือนไปยังข้าราชการทางการเมือง ข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระวังตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง เหมือนเช่นคดีจำนำข้าว เพราะมีข้าราชการจำนวนมากที่ติดคุก มากกว่านักการเมือง เพราะตกเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือนักการเมืองให้ทุจริตคอรัปชั่น โดยครั้งนี้มองว่าเป็นการทุจริตต่อกระบวนการยุติธรรมไทย
นอกจากนี้ คปท. จะเดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่ขอหารือกับเลขาธิการ ป.ป.ช.ให้มีการไต่สวนเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
ขณะที่ นายวัชระ ได้กล่าวแสดงตัวชัดเจนถึงการสนับสนุนการต่อสู้ของกลุ่ม คปท. ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สนับสนุนในฐานะอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และอาจจะเป็นจำเลยร่วมในอนาคต โดยนายวัชระ กล่าวอีกว่า ตนเองเป็นต้นเรื่องที่ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการตำรวจ ให้เข้าไปตรวจสอบการรักษาตัวของนายทักษิณ ว่าได้พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ จริงหรือไม่ ซึ่งต่อมาคณะ กมธ.ตำรวจ ก็จะไปดูวันที่ 12 ม.ค.นี้
ด้านนายอานนท์ ระบุว่า จากการติดตามข่าว ทราบว่านายทักษิณ เคยถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ที่มีการกล่าวพาดพิงถึงสถาบันฯ ดังนั้นตนเองจึงได้ร่วมประชุมกับกลุ่ม ศปปส. และมีความเห็นว่า จะร่วมการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย และขอให้นำตัวนายทักษิณ มารับโทษในคดีมาตรา 112 ด้วย เพราะที่ผ่ายมาตั้งแต่ ปี 2563 ทางกลุ่ม ศปปส. ได้แจ้งความเอาผิดมาตรา 112 กับกลุ่มบุคคลไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เหลือเพียงแค่นายทักษิณ เพียงเท่านั้นที่ยังไม่ได้รับโทษ
