POLITICS

โรงพยาบาลตำรวจ ไฟเขียวให้ กมธ.ตำรวจ เข้าดูงาน 12 ม.ค. นี้

‘ชัยชนะ’ ย้ำ ดูภาพรวม การดูแลนักโทษทั่วไปกับ ‘ทักษิณ’ แตกต่างกันหรือไม่ เผย หากพบว่ามีการเอื้ออภิสิทธิชนให้จริง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับกรณีที่โรงพยาบาลตำรวจได้มีหนังสือตอบกลับ อนุญาตให้คณะกรรมธิการฯ เข้าไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจได้แล้ว ในวันที่ 12 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยได้อนุญาตให้เข้าศึกษาดูงานเยี่ยมชมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ชั้น 6 อาคารศรียานนท์ โดยมอบหมายให้พันตำรวจเอกสฤษติ์ พุทธพงศ์ศิริพร ผู้กำกับการฝ่ายยุทธศาสตร์กองบังคับการอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้ประสานงานในการศึกษาดูงานครั้งนี้

นายชัยชนะ กล่าวว่า เป้าหมายของคณะกรรมาธิการฯ ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลผู้ต้องขัง ตั้งแต่กระบวนการรับผู้ต้องขังเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล ขั้นตอนในการดูแลผู้ต้องขังเป็นอย่างไร และจะได้สอบถามผู้ต้องขังทุกคนที่รักษาตัวอยู่ที่นั่น รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเพื่อดูวิธีการดูแลรักษาผู้ต้องขังคนอื่นกับนายทักษิณว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ผู้ต้องขังคนอื่นพักอยู่ที่ชั้นไหน ทำไมนายทักษิณ ถึงได้พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 เราต้องดูข้อแตกต่างในตรงนี้ร่วมด้วย

สำหรับอาการป่วยของนายทักษิณ นายชัยชนะ กล่าวว่า อาการป่วยจะหนักเบาแค่ไหน คงไม่สามารถเปิดเผยได้  ซึ่งทางแพทย์ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า เป็นกฎหมายที่สงวนไว้ระหว่างผู้ป่วยและผู้รักษาไข้ แต่ต้องได้ทราบว่าป่วยเป็นโรคอะไรบ้าง
และต้องดูขั้นตอน ว่ามีนักโทษกี่คนที่ขึ้นไปรักษาตัวที่ชั้น 14 มีการปฏิบัติเป็นอย่างไรบ้าง มีนักโทษมากน้อยแค่ไหนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หรือมีการดูแลผู้ป่วยอย่างไร และต้องดูว่าโรงพยาบาลตำรวจอนุญาตให้ได้มากน้อยแค่ไหน เช่น จะให้พบกับตัวนักโทษหรือไม่ หรือให้ดูจากภาพกล้องวงจรปิด ตรงนี้คือประเด็นสำคัญมากกว่า และหากพบว่านายทักษิณไม่อยู่จริง โรงพยาบาลตำรวจต้องตอบสังคมด้วยว่า นายทักษิณอยู่ที่ไหน แต่ถ้าอยู่จริงเราก็จะต้องบอกสังคมว่าเห็นแล้วว่าอยู่อย่างไร

นายชัยชนะ กล่าวเพิ่มว่า ได้ฝากไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้ส่งเอกสารชี้แจงรายละเอียดการรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจหลังครบ 120 วัน มาให้คณะกรรมาธิการฯ ด้วย ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีเอกสารชี้แจงกลับมา หากพบว่า
มีการเอื้ออภิสิทธิ์ให้นายทักษิณจริง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากการรักษาตัวของผู้ต้องขัง ใช้เงินของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมราชทัณฑ์ได้แจ้งว่าจำนวนเงินเกิน สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ตนเองก็บอกว่าให้เอารายละเอียดมาชี้แจง ซึ่งเราได้ทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ให้ส่งเอกสารที่เราขอไปทั้งหมดแล้ว

“ขอให้ท่านทบทวนให้ดี ท่านต้องให้ความร่วมมือกับกรรมาธิการตำรวจ ต้องตอบว่ามีความคิดเห็นอย่างไร กับประเด็นที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นจำเลยของสังคม และหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเอื้ออภิสิทธิ์ชนเกิดขึ้นในโรงพยาบาลตำรวจจริง ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย และระเบียบที่มีอยู่ เพราะการรักษาตัวของผู้ต้องขังใช้เงิน สปสช.  หากอ้างว่าสามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องชี้แจงให้ได้ตามระเบียบ” นายชัยชนะ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้เจอกับนายทักษิณตัวต่อตัวจะพูดอะไร นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอให้ถึงวันนั้นก่อน หากพูดวันนี้ ก็คงไม่มีอะไรน่าติดตาม”

Related Posts

Send this to a friend