นายกฯ มอบโอวาท เยาวชนดีเด่น – สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

นายกฯ มอบโอวาท เยาวชนดีเด่น – สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ยึด 3 สถาบันหลัก - ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมทักทาย ถ่ายรูปเซลฟี่ เรียกเสียงเชียร์จากเด็ก ๆ
วันนี้ (10 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบโล่รางวัลแด่เยาวชนดีเด่น เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 โดยเป็นเด็กที่มีความประพฤติดี และนำชื่อเสียงมาให้ประเทศ จำนวน 1,220 คน โดยมีพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาท
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวรายงานว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ได้นำเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจากทุกสังกัดทั่วประเทศเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี โดยพิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด มีความมานะอดทน หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง กตัญญู ช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ซึ่งนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปะวัฒนะธรรมและดนตรี ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ ด้านกีฬาและนันทนาการ ด้านศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมจำนวน 604 คน และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติจำนวน 279 คน และประเภททีมจำนวน 337 คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานเอกชนด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้ได้มาพบปะกับเยาวชนที่น่ารักทุกคน ผมรู้สึกปราบปลื้มใจ ที่เด็กมีความรู้ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และนำชื่อเสียง มายังประเทศชาติ ผมขอชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันดำเนินการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาเยาวชนของชาติ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้มีความร่วมมือยกระดับคุณภาพการศึกษาคุณภาพชีวิต เพื่อให้เด็กเยาวชนภูมิใจในชาติยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“สิ่งสำคัญเด็กและเยาวชนทุกคนต้องมีความรู้สึกรู้จักการกตัญญูรู้คุณแก่บิดามารดาผู้มีพระคุณ และประเทศชาติ มีความรู้จากสามัคคีรักชาติมีการประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัยที่ดี และมีการประพฤติตัวที่อยู่ในกรอบของกฎหมายรวมทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถควบคู่กับคุณธรรมตลอดจนความร่วมมือช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติสอดรับกับคำขวัญวันเด็กในปีนี้มองโลกกว้างคิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่างร่วมการสร้างประชาธิปไตย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนเองขอชื่นชมนักเรียนที่เข้ารับรางวัล เป็นผลจากที่ทุกคนขยันหมั่นเพียรแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ จนเกิดความสำเร็จสร้างผลประโยชน์แก่ตนเองสังคม และประเทศชาติ ผมขอเป็นกำลังใจ และหวังว่าทุกคนจะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งการศึกษา และทำในสิ่งที่ตนเองได้ตั้งเป้า ไว้ซึ่งการได้รับรางวัลในวันนี้ ถือเป็นเกียรติประวัติที่สง่างามแก่ตนเอง และมาตุภูมิ รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นกำลังใจให้กับเด็กและเยาวชน รุ่นต่อไป
ภายหลังจากการมอบโอวาท นายกรัฐมนตรีได้ทักทายนักเรียนที่อยู่ทั้งในห้องประชุม ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน และตึกสันติไมตรีหลังนอก โดยได้จับมือ พูดคุย และถ่ายภาพร่วมกันกับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเรียกกรี๊ดจากเด็กนักเรียนด้วย โดยนายกรัฐมนตรี ได้อุ้มเด็กผู้ชาย ที่เป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของนายกรัฐมนตรี และยังมีเด็กและเยาวชนกลุ่มหนึ่ง ได้ขอถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับบอกว่า “ผมเชียร์ลิเวอร์พูลครับ” ทำให้นายกรัฐมนตรี ชูนิ้วโป้งขึ้นมา พร้อมบอกว่า “แบบนี้เอาไปสองนิ้วเลย”
ถัดมานายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายภาพร่วมกันกับเด็ก ๆ ที่ได้รับรางวัล พร้อมรับมอบสิ่งของที่ระลึก เช่น ภาพวาดการ์ตูนนายกรัฐมนตรีสวมชุดซุปเปอร์แมน และภริยาสวมชุดวันเดอร์วูแมน ภาพสะเก็ตเหมือนดินสอ ไข่ไก่ หอมกระเทียม ไม้หอมเทพทาโรแกะสลักเป็นตัวพะยูน และขนมขบเคี้ยว
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินจากตึกสันติไมตรีมายังตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งระหว่างทางได้มีเหล่าบรรดาผู้ปกครองของเยาวชนที่มารับรางวัล ขอถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกันกับนายกรัฐมนตรีตลอดทั้งสองข้างทาง ซึ่งได้มีผู้ปกครองตะโกนถามนายกรัฐมนตรีว่า “ท่านนายกฯ คะ วันนี้สวมถุงเท้าสีอะไร คะ” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นไปยังบันไดชั้นบนก่อนยกมือไหว้ และโบกมือและใช้มือซ้ายจับที่หัวใจ