‘สุชัชวีร์’ แถลงนโยบายยุทธศาสตร์ด้ามขวานทอง ประกาศหากเป็นรัฐบาล คนใต้ไม่จน ไม่จมน้ำ ไม่แพ้สิงคโปร์

วันนี้ (9 ธ.ค. 68) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ จัดแถลงข่าว “ยุทธศาสตร์ด้ามขวานทอง นโยบายการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้” พร้อมเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ภาคใต้

นายสุชัชวีร์ ได้แนะนำนายพัชรคีรี สีชาติ นิสิตชั้นปีที่ 2 ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Hatyaitongrod ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยนายสุชัชวีร์ มอบทุนการศึกษาให้นายพัชรคีรี พร้อมกับแสดงความขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ

นายสุชัชวีร์ กล่าวถึง “ยุทธศาสตร์ด้ามขวานทอง นโยบายการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้” ว่านโยบายที่มาจากเราทำจริง ต้องทำและผ่านการคัดกรองจากมืออาชีพ เพราะการบริหารประเทศโดยไม่มีความรู้กระทบต่อทรัพย์สินและเศรษฐกิจที่ประเมินค่าไม่ได้ ดังนั้นพรรคไทยก้าวใหม่ขอเสนอ 4 นโยบายแรกแห่งการพัฒนาด้ามขวานทอง ประกอบด้วย

นโยบายที่ 1 ขออาสาเร่งรัด “โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายใต้” ซึ่งจะถือเป็นนโยบายของ สส. ภาคใต้และพรรคไทยก้าวใหม่ในการสื่อสารถึงพี่น้องด้ามขวานทอง ตนเองขอเป็นหัวหอกในการเชื่อมต่อภาคใต้ไปยังกรุงเทพมหานคร มาเลเซีย และประเทศจีน เพื่อสร้าง GDP ของไทยและสร้างรายได้มหาศาล

นโยบายที่ 2 เป็นนโยบายที่ไม่เคยมีมาก่อนคือ “เส้นทางรถไฟสายอันดามัน” ยกระดับความเจริญจังหวัดที่สวยงามแต่ยากจน เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้เป็นคนที่ร่ำรวย ส่วนตัวเป็นลูกคนใต้ คุณแม่เป็นคนพังงา ตั้งแต่คุณแม่เด็กจนถึงปัจจุบัน ฝั่งอันดามันถูกละเลย ทั้งนี้เส้นทางรถไฟสายอันดามันจะเกิดขึ้นได้ หากพรรคไทยก้าวใหม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3 ล้านคนต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น 1.5 แสนล้านบาทต่อปี คนใต้จะรวยขึ้น 10% ต่อคนต่อปี

นโยบายที่ 3 “พลิกโฉมภูเก็ตสู่การเป็น ASEAN HUB” ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ไม่มีมหาวิทยาลัยเต็มรูปแบบ พรรคไทยก้าวใหม่ขอยกระดับภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางของอาเซียนไม่แพ้สิงคโปร์ โดยจะต้องมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การยกระดับระบบคมนาคม และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ทั้งยังจะต้องมีการปรับรูปแบบการปกครองเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา

พรรคไทยก้าวใหม่จะขยายขีดความสามารถสู่เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ทั้งมหาวิทยาลัยและบริษัทระดับโลกมาตั้งที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ สนับสนุนให้เกิด One Stop Service ให้กับผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งภูเก็ตจะกลายเป็นเมืองที่ปั๊มเงินให้กับภาคใต้ เป็นยกระดับ GDP ไทยโดยรวม เป็นหัวหอกในการยกระดับรายได้ให้ประเทศไทย

นโยบายที่ 4 “นโยบายหัวใจสี่ห้อง แก้ปัญหาภัยธรรมชาติภาคใต้อย่างยั่งยืน” ตนเองทนไม่ได้ที่คนใต้จมน้ำตามีความทุกข์แสนสาหัสจากการผิดพลาดในการบริหารงานของผู้นำในพื้นที่และรัฐบาลทั้งที่ข้อมูลทุกอย่างมี แต่สุดท้ายกลับบริหารโดยไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่มีความรู้ ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าการคอร์รัปชัน ทำให้สูญเสียทุกอย่าง ประชาชนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นได้เมื่อไร ชีวิตไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้ ดังนั้นพรรคไทยก้าวใหม่ต้องการพลิกโฉมในการรับมือภัยพิบัติภาคใต้เพื่อเป็นต้นแบบให้กับประเทศไทย ผ่านนโยบายหัวใจสี่ห้อง ได้แก่ 1. การตั้งศูนย์บัญชาการรับมือภัยพิบัติแบบเรียลไทม์ 2. การวางแผนการปรับตัวของเมือง 3. การสร้างเทคโนโลยีทางวิศวกรรม 4. จัดทำมาตรฐานรับมือภัยพิบัติ

“คนใต้เลือกแบบเดิมก็ได้แบบเดิม ถึงเวลาแล้วที่ต้องเลือกพรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเปลี่ยนภาคใต้ ดูแลลูกหลานให้เขาได้ร่ำรวย มีโอกาสในชีวิตได้อยู่อย่างปลอดภัย ไม่ต้องหนีน้ำท่วม วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ ในฐานะที่ผมหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใต้ ไม่ยอมให้คนใต้ต้องจน ไม่ยอมให้คนใต้ต้องจม วันนี้พรรคไทยก้าวใหม่ขอประกาศว่า ถ้าพรรคไทยก้าวใหม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล คนใต้ไม่จน ไม่จมน้ำ และคนใต้จะไม่แพ้สิงคโปร์ มาเลเซีย แน่นอน” นายสุชัชวีร์ กล่าว

จากนั้น นายสุชัชวีร์ ได้มอบเสื้อและสวมหมวก ให้กับผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ภาคใต้ทั้ง 15 คน ได้แก่

1.สจ.หมอ นายกิตติเดช วรรณบวร ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. ตรัง 2.ดร. สุมิตร สามห้วย ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. ตรัง 3.นางสาวอัจฉรา วงศ์สุทธิวัตร ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. ตรัง 4.รศ. ดร. สืบพงษ์ ธรรมชาติ ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. นครศรีธรรมราช 5.นายสุริยา แก้วเสน ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. นครศรีธรรมราช 6.นายโรสลี บือราเฮง ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. นราธิวาส 7.นายบุญยง ทองมุสิก ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. พังงา 8.นายศุภณัฐ สำอางค์ ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. พัทลุง 9.นายอธิคม ขุนแก้ว ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. พัทลุง 10.วิวัฒน์ หนูมาก ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. พัทลุง 11.สมภพ สุภนรานนท์ ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. ยะลา 12.อ.โอ๋ ธนาคม พจนาพิทักษ์ ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. สตูล 13.ทนายอุ้ย นายเรืองเดช เติมทอง ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. สุราษฎร์ธานี 14.นายณัฐพงษ์ สาโรจน์ ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. สุราษฎร์ธานี 15.ดร. มาโนช เพชรชู ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. จ. สุราษฎร์ธานี

นายสุชัชวีร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวว่า ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. หลายคนวันนี้ยังติดภารกิจช่วยเหลือประชาชนในการฟื้นฟูน้ำท่วม นี่เป็นเพียงแค่ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ชุดแรกเช่นเดียวกับนโยบายที่เป็นนโยบายชุดแรก เรายังมีอีกหลายนโยบายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนภาคใต้ ส่วนนโยบายด้านความมั่นคง ความมั่นคงจะเกิดขึ้นได้ประชาชนต้องร่ำรวยไม่ลำบาก เนื่องจากไม่มีใครที่จะแยกออกจากแผ่นดินทอง หัวใจสำคัญคือปากท้อง ปัจจุบันรัฐแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้เพราะไม่มีอะไรใหม่ ๆ ทั้งที่ภาคใต้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์

ขณะที่ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ภาคอื่น ๆ มีการเปิดตัวไปแล้ว ซึ่งกระแสตอบรับดี มีนโยบายที่ก้าวใหม่ เราประกาศตัวจะไม่เล่นการเมืองแบบเดิม ๆ จะไม่สุมไฟความขัดแย้ง พรรคไทยก้าวใหม่พร้อมทำงานกับทุกพรรคและต้องการนำเสนอนโยบายที่เปลี่ยนประเทศไทยจริง ๆ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะกลับมาเป็นประเทศที่ยากจน ซึ่งเรารับไม่ได้ ส่วนเรื่องยุบสภา ไม่มีใครบอกได้ ไม่ว่าเมื่อไร แต่เราก็พร้อมเสมอ