นายกฯ มอบรางวัล 40 สุดยอดผู้ประกอบการส่งออก
นายกฯ มอบรางวัล 40 สุดยอดผู้ประกอบการส่งออก เร่งนโยบาย ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ดันธุรกิจไทยเติบโตในตลาดโลก
วันนี้ (9 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี 2566 (Prime Minister’s Export Award 2023) เพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ภายใต้แนวคิด BCG Economy Model สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การสร้างมาตรฐานสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ
นายเศรษฐา ระบุว่า ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกนับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถแข่งขับได้ภายใต้บริบทโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รัฐบาลเตรียมความพร้อมเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการ เน้นสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยใช้การทูตเชิงรุก สร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศด้วยการเจรจา สร้างตลาดใหม่ และรักษาตลาดเดิม เพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทย และสินค้าในภาคจากนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
สำหรับรางวัล PM’s Export Award ประจำปีนี้ เป็นรางวัลเชิดชูผู้ประกอบการไทยที่มุ่งมั่นทุมเทเพื่อพัฒนาสินค้า และบริการให้มีคุณภาพในมาตรฐานในทุกมิติ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งด้านการประกอบธุรกิจนวัตกรรม แบรนด์ การส่งออก การออกแบบ และคุณภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ
นายเศรษฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เชิญทูตพาณิชย์ และเอกอัคราชทูตจากทั่วโลกมาประชุมใหญ่เพื่อมอบนโยบายที่จะช่วยผู้ส่งออกได้เปิดตลาดดีขึ้น รวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจส่งออกเพื่อการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดโลก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รางวัล PM’s Export Award กระทรวงฯ จัดขึ้นต่อเนื่องตลอด 30 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2535 มีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 798 รางวัล จาก 257 บริษัท และปีที่ 31 ภายใต้แนวคิด “Better Vision Brighter Future: เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทยมุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ” ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การคัดสรรผู้ประกอบการภาคส่งออกในปี 2566 มีผู้สมัครเข้ารับรางวัลทั้งหมด 162 ราย มีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินให้เข้ารับรางวัลรวมจำนวน 40 รางวัล 37 บริษัท ใน 7 สาขา ประกอบด้วย
1.รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 6 รางวัล
2.รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 10 รางวัล
3.รางวัลธุรกิจ BCG ส่งออกยอดเยี่ยม (Best BCG Exporter) ปรับจากรางวัลสินค้าส่งเสริมนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 7 รางวัล
4.รางวัลออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) โดยมีผู้ประกอบการผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้เข้ารับรางวัล จำนวน 7 รางวัล
5.รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise) ประกอบด้วย สาขาโรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง คลินิกเฉพาะทาง สาขาดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟแวร์ และสาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ รวมจำนวน 4 รางวัล
6.รางวัลสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 1 รางวัล และ OTOP New Face Exporter จำนวน 1 รางวัล รวม 2 รางวัล
7.รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) มีผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาและได้เข้ารับรางวัลรวม 4 รางวัล
จากข้อมูลการส่งออกของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในปีนี้ มีส่วนสร้างรายได้เข้าประเทศในปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 14,567.65 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.79 จากปีก่อนหน้า และช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 สร้างรายได้ให้แก่ประเทศแล้วประมาณ 12,257.24 ล้านบาท มีส่วนช่วยสนับสนุนการจ้างงานไม่น้อยกว่า 7,654 ราย