พล.อ.อนุพงษ์ ให้กำลังใจผู้ประสบภัย-เจ้าหน้าที่ พื้นที่รังสิต
พล.อ.อนุพงษ์ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ พื้นที่รังสิต กำชับเตรียมพร้อมรับมือหากมีฝนลูกใหม่เพิ่มเข้ามา ย้ำ ประชาชนต้องได้รับต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
วันนี้ (9 ก.ย. 65) เวลา 08.30 น. ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์น้ำท่วม (เทศบาลนครรังสิต) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) พร้อมคณะลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และคณะนำตรวจเยี่ยม
จากนั้น พล.อ. อนุพงษ์ ออกเดินทางไปตรวจการระบายน้ำ ณ สถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิต (หลังตลาดรังสิต) พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการปฏิบัติงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชนของจ.ปทุมธานี อบจ.ปทุมธานี เทศบาลนครรังสิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสั่งการให้ลดการระบายน้ำออกสู่พื้นที่รอบนอก และเร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะนี้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้แล้ว แม้ว่าจะมีฝนตกอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าควบคุมได้ หากฝนไม่ตกในปริมาณมาก
โดยส่วนของการระบายน้ำในชุมชนก็จะดำเนินการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็กทยอยสูบน้ำออก เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสัญจรของพี่น้องประชาชน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว ย้ำว่าได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะในบริเวณริมแม่น้ำ เนื่องจากมีระดับน้ำที่ใกล้เคียงกัน จึงต้องเร่งลดปริมาณน้ำเก่าในคลองและป้องกันน้ำใหม่เข้ามา ย้ำว่าถ้าน้ำในคลองลดลงพื้นที่ที่มีปัญหาก็จะคลี่คลาย แต่หากปริมาณน้ำฝนมากยิ่งขึ้นก็ได้สั่งการให้ทางจังหวัดร่วมกับเทศบาลนครรังสิต เตรียมพร้อมรับมือแล้ว
นอกจากนี้ พล.อ. อนุพงษ์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเครื่องสูบน้ำเสียนั้น จะมีการประสานและเร่งแก้ไขให้สามารถสูบน้ำได้เต็มกำลัง ย้ำว่าหากต้องการความช่วยเหลือในเรื่องของเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำสามารถแจ้งเข้ามา ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ได้เลย ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนปัญหาที่ประชาชนไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้เนื่องจากน้ำท่วม ส่วนตัวยังมองว่าการช่วยเหลือประชาชนล่าช้าไป จึงได้สั่งการเพิ่มเติมให้จังหวัดปทุมธานี ได้บูรณาการร่วมกับนายกเทศมนตรีนครรังสิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมพร้อมรับมือและช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
