‘เท่าพิภพ’ ฝาก รมว.คลัง แก้กฎกระทรวงรอ หลังร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่านวาระแรก
‘เท่าพิภพ’ ฝาก รมว.คลัง แก้กฎกระทรวงรอ หลังร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่านวาระแรก ‘พิธา’ เตือน ส.ส. ฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่เสียงโทรศัพท์ ยืนยันเดินหน้าซักฟอกรัฐบาล แม้ ส.ว. เล็งเปิดอภิปรายไม่ลงมติ ม.153
วันนี้ (9 มิ.ย. 65) ที่อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส. พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ … พ.ศ. … หรือร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ซึ่งนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอนั้น
นายเท่าพิภพ เริ่มกล่าวด้วยการขอบคุณบิดา มารดา ครอบครัว ครอบครัว และภรรยา ที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในสิ่งที่นายเท่าพิภพทำ ขอบคุณอดีตพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ลงมติตามระบอบประชาธิปไตยในสภาฯ ตลอดจนขอบคุณฝ่ายรัฐบาลที่ร่วมงดออกเสียงซึ่งก็ยังถือเป็นการช่วยไม่ให้คว่ำ หรือแม้แต่ไม่เห็นด้วยก็นั่งเป็นองค์ประชุมให้
“ผมว่าเป็นร่างฝ่ายค้านนี้ที่ผ่าน ก็จุดไฟหวังให้ภาคประชาชนได้มาก” นายเท่าพิภพ กล่าว
นายเท่าพิภพ ยังกล่าวขอบคุณพี่น้องเบียร์ภาคประชาชนว่าพวกเขาสู้มาก่อน ที่ผ่านมาเราจึงได้รวบรวมความเห็นท่าน จนผ่านวาระหนึ่ง ต่อไปชั้นกรรมาธิการก็ได้ฟังข้อเป็นห่วงของรัฐบาลและข้าราชการก็จะพิจารณาในชั้น กมธ. เพื่อหาทางออกและความลงตัว เพื่อให้ผ่านมติในวาระต่อไป
“ความรู้สึกที่สุดคือรู้สึกขอบคุณ (thankful) มากกว่าดีใจ การเมืองมันทำคนเดียวไม่ได้ แต่พี่น้องสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจประเด็นผมตั้งแต่โดนจับ ถ้าไม่มีวันนั้นก็ไม่มีวันนี้” นายเท่าพิภพ กล่าว
นายเท่าพิภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่สรรพสามิต และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการคลังว่า แก้กฎกระทรวงรอได้เลย เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน แก้รอเลย เดี๋ยวสภาฯ ก็ผ่านแล้ว
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวร่วมฉลองกับพี่น้องประชาชนเรื่องเกี่ยวกับสุราก้าวหน้าว่าเป็นการทำให้ “ประชาธิปไตยดื่มได้” ร่วมขอบคุณเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย (ครท.) ที่ต่อสู้มาเป็นสิบปีจนเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในปี 2544 และ 2546 และขอมอบความสำเร็จนี้ให้กับคนรุ่นลูกผมที่นำวัฒนธรรมนี้กลับมาอีกครั้ง รวมถึงพี่น้องในธุรกิจบาร์และสุราชุมชนตั้งแต่เหนือจรดใต้ที่ต่อสู้ตลอดวิกฤตโควิดที่ผ่านมา
นายพิธา ยก 7 เหตุผลเพื่อต่อยอดการผ่านวาระแรกเมื่อวานนี้ ไปสู่วาระถัดไป ได้แก่
- สุราพื้นบ้านที่แต่ก่อนเป็นของราคาถูกจะกลายเป็นของแพงที่เพิ่มมูลค่าได้
- จากข้อมูล Think Forward Center ธุรกิจสุราพื้นบ้านจะเกิดขึ้นมาใหม่ ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย และมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท
- สุราพื้นบ้านช่วยทำให้การท่องเที่ยวท้องถิ่นเป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น
- สุราพื้นบ้านต่อยอดภูมิปัญญาที่สูญหายไป
- สุราพื้นบ้านจะลดการนำเข้า เลิกการผูกขาด และเพิ่มส่งออกได้ ช่วยดึงดุลการค้ากลับมา และสร้างฐานภาษีใหม่
- สุราพื้นบ้านแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร และเพิ่มอำนาจต่อรองให้เกษตรกร
- อุตสาหกรรมโดยรอบสุราอย่างกากสุรา ก็มีคุณค่าเป็นอาหารสัตว์หรือก๊าซชีวภาพในครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ได้
“ขอบคุณประชาชนที่ช่วยผลักดันและเชียร์เมื่อวานนี้ สัปดาห์หน้ามี พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มาพร้อม พ.ร.บ.คู่สมรส ฝากนำพลังโมเมนตัมนี้ไปให้ถึงสัปดาห์หน้าด้วย” นายพิธา กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถามหัวหน้าพรรคก้าวไกลถึงวาระ 2-3 ของการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวว่าจะมีความหวังหรือไม่เมื่อพิจารณาจากท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่ายังมีความหวังอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลานี้จะทำอะไร พรรคก้าวไกลจะเดินสายอธิบายเหตุผลสนับสนุนสุราพื้นบ้านกับเพื่อนสมาชิกและประชาชนมากขึ้น เพื่อหวังพลิกฟื้นประเทศมาได้
ส่วนที่ว่าจะกังวลถึงคะแนนเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจไม่ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ต่อหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ห่วงในภาพรวมมากกว่า เพราะทั้ง 500 คนก็ยึดโยงกับเสียงประชาชน ควรฟังประชาชน หากจะฟังโทรศัพท์จากคนไม่กี่คนว่าไม่ให้เห็นชอบร่างกฎหมายนี้ก็ไม่ควร นี่ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องสุรา แต่ทุกเรื่องด้วย
นายพิธา ยังกล่าวว่า สัปดาห์หน้า จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์เพื่อร่วมการประชุมแชงกรีลาไดอาล็อก (Shangri-La Dialogue) ซึ่งเป็นการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั่วโลก และจะเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย ซึ่งทั้งหมดนี้จะดูตัวอย่างจากต่างประเทศมาใช้ได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังสอบถามความเห็นเกี่ยวกับการเสนอญัตติอภิปรายตามมาตรา 153 ของวุฒิสภา นายพิธา ตอบว่า คิดว่าเป็นการเสนอแนะ ไม่มีการลงมติ คงเป็นการอภิปรายเพื่อแสดงออกถึงสิ่งที่ ส.ว. จะพูดกับสังคม คงไม่กระทบกับรัฐบาลแต่อย่างใด และหวังว่าไม่ใช่การฟอกขาวรัฐบาลก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนของเรายืนยันจะทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่
