POLITICS

ภาคประชาชนหนุน ‘ก้าวไกล’ จัดบำนาญถ้วนหน้า ผู้สูงอายุ

ภาคประชาชนหนุน ‘ก้าวไกล’ จัดบำนาญถ้วนหน้า ผู้สูงอายุ ‘พิธา’ ชี้ต้องแก้ก่อนไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

วันนี้ (9 มิ.ย. 65) เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ ยืนยันแสดงเจตนารมณ์ต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมือง เรื่องการผลักดันบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าให้เป็นหลักประกันรายได้สำหรับผู้สูงวัยทุกคนบนแผ่นดินไทย ด้วยหลักความเป็นธรรม เสมอภาค ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบผลการพิจารณาศึกษาเรื่อง แนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ และทางเครือข่ายฯ ทำหนังสือยื่นต่อประธานรัฐสภาให้นำรายงานฉบับดังกล่าวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการต่ออย่างเร่งด่วนแล้วนั้น และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเร่งด่วนของการดำเนินการ ทางเครือข่ายฯ จึงมาพบตัวแทนพรรคการเมือง (นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล) และขอให้เร่งติดตามการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป

นายนิมิตร์ กล่าวต่อว่า เครือข่ายประชาชนฯ ติดตามการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2566 ในการประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองหลายพรรคอภิปรายถึงแนวทางการจัดสรรงบประมาณใหม่ ที่เน้นลดขนาดงบประมาณด้านโครงสร้างในระบบราชการ และอภิปรายชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงของงบประมาณในส่วนสวัสดิการ ทั้งสวัสดิการข้าราชการ และสวัสดิการของประชาชน ซึ่งชัดเจนว่า ยังมีความเหลื่อมล้ำในการจัดสรรงบ

“เราต้องมาช่วยกันคิดว่า จะทำให้ทุกคนได้รับความเท่าเทียมด้านสวัสดิการร่วมกันอย่างไร ซึ่งทางเครื่อข่ายฯ ขอยืนยันว่า เราไม่ได้ต้องการให้ตัดงบสวัสดิการ หรือบำนาญของข้าราชการที่ได้อยู่แต่เดิม ส่วนข้าราชการใหม่ ต้องมีระบบการจัดการใหม่ เช่น ลดกำลังคนที่ไม่จำเป็นของทบวง กระทรวง กรม ต่าง ๆ หรือการทำให้เป็นระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น” นายนิมิตร์กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางหนูเกณ อินทจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายฯ ระบุว่า การผลักดันให้เกิดบำนาญถ้วนหน้าเป็นการสร้างความเท่าเทียมที่เป็นรูปธรรมที่สุดแล้ว รัฐบาลและข้าราชการต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำให้เป็นจริงได้แบบไหน รัฐจะหารายได้เพิ่มอย่างไร จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นแบบไหนมากกว่าที่จะมากังวล กลัวว่าจะมีการตัดงบบำนาญ หรือสวัสดิการของตัวเองลงแต่เพียงอย่างเดียว หากรัฐบาลหรือข้าราชการไม่ทำเพื่อประชาชน จะมาเป็นรัฐบาล หรือรับราชการทำไม และขอเป็นกำลังใจให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ทุกพรรค ที่พยายามให้มีการทบทวนการใช้งบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน พร้อมยืนยันสนับสนุนการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านที่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงของงบประมาณด้านสวัสดิการ

นายพิธา กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้จะเก็บเป็นพลังทำงานต่อไป ส่วนคำท้วงติงหรือทุกคำแนะนำจะเก็บนำไปปรับปรุง พร้อมย้ำว่าไม่เสียกำลังใจแต่อย่างใด เพราะอยากเป็นนักการเมืองที่ดูแลประชาชนสูงอายุ ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เพศอะไร ซึ่งพร้อมจะดูแลวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากกว่าจำนวนแรงงานในประเทศ และปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาเพียงแค่สองปี จะต้องใช้เวลาเตรียมการมากกว่านั้น

Related Posts

Send this to a friend