POLITICS PUBLIC HEALTH

บอร์ด สปสช. แจง กระจาย ATK รอบแรกลงพื้นที่แล้ว 8.49 ล้านชุด

วันนี้ (9 เม.ย. 65) ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติรับทราบความคืบหน้าของการกระจายชุดตรวจการติดเชื้อโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง Antigen Test Kit (ATK) สำหรับกลุ่มเสี่ยงในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ระยะที่ 1 จำนวน 8.5 ล้านชุด ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2564 – 31 มี.ค. 2565 เพื่อให้มีการกระจายชุดตรวจให้แก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยใช้กลไกกระจายผ่านหน่วยบริการในระบบบัตรทอง ทั้งโรงพยาบาล ร้านขายยา ฯลฯ พร้อมจ่ายค่าตอบแทนให้แก่หน่วยบริการเป็นเงินจำนวน 10 บาทต่อชุด

ทั้งนี้ สธ.และ สปสช.ได้กำหนดให้มีการแจกตามพื้นที่เสี่ยงสีแดงซึ่งมีประชาชนติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนต้องประเมินความเสี่ยงผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อพิสูจน์ตัวตนในการรับชุดตรวจ 2 ชุด ภายในระยะเวลา 10 วัน หากมีการบันทึกแล้วผลเป็นลบ จะสามารถรับชุดตรวจชุดต่อไปได้

สำหรับการบันทึกผล ซึ่งปิดรับการบันทึกข้อมูลไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 พบว่ามีการบันทึกผล ATK ผ่านแอปฯ จำนวน 7,141,966 ชุด ไม่พบการบันทึกผลจำนวน 914,734 ชุด และยังคงเหลือ ATK ในพื้นที่ประมาณ 437,725 ชุด ซึ่งจากนี้ สปสช.จะติดตามตรวจสอบต่อไป เนื่องจากขณะนี้มีโครงการกระจายชุดตรวจ ATK ในระยะที่ 2 เริ่มเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2565 กำหนดให้ประชาชนสามารถเข้ารับชุดตรวจ ATK ได้ที่ร้านขายยาหรือคลินิก ขณะที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมจะเป็นผู้จัดหาชุดตรวจและเบิกค่าใช้จ่ายกับ สปสช. ราคาชุดละ 55 บาท

สำหรับหลักเกณฑ์การรับชุดตรวจ ATK ในระยะที่ 2 ประชาชนไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถรับชุดตรวจ ATK ฟรี คนละ 2 ชุด ขอย้ำว่าให้นำชุดตรวจ ATK ที่ได้รับมาตรวจหาเชื้อทันที เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมให้บันทึกผลการตรวจในระบบ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขอรับชุดตรวจ ATK ในครั้งต่อไปได้ โดยกรณีที่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ สามารถขอรับชุดตรวจ ATK เพิ่มเติมได้โดยเว้นช่วงระยะเวลาห่างกันมากกว่า 14 วัน

ที่ประชุมคณะกรรมการสปสช. ยังเสนอให้มีการประกาศให้ชัดเจนว่า ผู้ที่จำเป็นต้องตรวจ ATK คือผู้ที่มีอาการ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องตรวจ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ระบุว่า โควิด-19 กำลังดำเนินสู่โรคประจำถิ่น หากยังระบุว่าต้องมีการตรวจ ATK ก่อนเข้าพื้นที่ต่างๆ ประชาชนก็จะต้องหาชุดตรวจ ซึ่งอาจจะสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนบางกลุ่มได้

Related Posts

Send this to a friend