POLITICS

‘ไข่ มาลีฮวนน่า’ ยื่น ‘เพื่อไทย’ ดัน พ.ร.บ.ศิลปินฯ คุ้มครองคนบันเทิง

‘ไข่ มาลีฮวนน่า’ ยื่น ‘เพื่อไทย’ ดัน พ.ร.บ.ศิลปินฯ คุ้มครองคนบันเทิงขาดรายได้ช่วงโควิด -19 ‘ชลน่าน-ณัฐวุฒิ’ มั่นใจรัฐบาลเพื่อไทยดันนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ แก้ปัญหาได้ในภาพรวม

วันนี้ (9 มี.ค. 66) นายคฑาวุธ ทองไทย หรือ ไข่ มาลีฮวนน่า ในฐานะประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย เข้ายื่นเรื่องต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อเสนอให้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาศิลปะศิลปินและวัฒนธรรมแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองสิทธิให้ศิลปินวิชาชีพและบุคลากรวงการบันเทิง

นายคฑาวุธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ศิลปินและกลุ่มคนในวงการบันเทิงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้ขาดงานและรายได้เป็นเวลา จึงได้มีแนวคิดผลักดันเป็นกฎหมาย หรือมาตรการ เพื่อรองรับและคุ้มครองสิทธิ

นายคฑาวุธ ระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นร่างเบื้องต้นโดย นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ โดยได้นำมาปรับแก้ และยื่นเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระ แต่ยังไม่มีพรรคการเมืองใดนำมาประกาศเป็นนโยบาย จึงแนะนำเรื่องมาเสนอต่อพรรคเพื่อไทยในวันนี้

ด้าน นพ.ชลน่าน เผยว่า ได้มีการร้องเรียนจากเครือข่ายศิลปินและคนบันเทิงตั้งแต่วาระเริ่มแรก เพราะมีสื่อมวลชนทำสกู๊ปเรื่อง ความเดือดร้อนของศิลปินในช่วงโรคระบาดไปเผยแพร่ในช่วงเริ่มต้นของวิกฤตโควิด-19 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด มีการแลกเปลี่ยนว่า ควรมีมาตรการมารองรับให้คนในวงการบันเทิง เช่นตัวบทกฎหมาย

สำหรับ พ.ร.บ.สภาศิลปินฯ นั้น ประธานสภาฯ ให้ความเห็นว่า มีความเกี่ยวเนื่องกับหมวดที่ 5 เรื่องหน้าที่ของรัฐ สามารถให้ภาคประชาชนเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 10,000 รายชื่อ เพื่อนำเสนอกฎหมายได้

สำหรับพรรคเพื่อไทยเอง ได้นำเสนอนโยบายในภาพกว้าง คือ One Family One Soft Power 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างงานที่มีทักษะสูง 20 ล้านครัวเรือน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะมีการผลักดันนโยบายนี้ไปสู่การปฏิบัติเพื่อส่งเสริมอาชีพบันเทิงและคุ้มครองสิทธิ ด้วยการตราเป็นกฎหมาย พร้อมให้ความมั่นใจว่าพรรคพร้อมที่จะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา

ด้าน นายณัฐวุฒิ ให้กำลังใจพี่น้องคนบันเทิงและศิลปินโดยวิชาชีพ โดยเชื่อว่า จิตวิญญาณของศิลปินจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและอีกหลายภาคส่วน เพื่อให้เกิดเป็นบทบัญญัติกฎหมายของตัวเอง รวมถึงสภาวิชาชีพที่จะดูแลกันและกัน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์และสถานะของคนทำงานศิลปะให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป

Related Posts

Send this to a friend