นายกฯ ลั่น กลาง ครม. “ในรัฐบาลนี้ไม่มีต่อเกษียณอายุราชการ เกษียณแล้วเกษียณเลย”
นายกฯ ขอบคุณหน่วยงานทำข้อมูลรับอภิปรายงบ 67 ชี้ ยังตั้งหลักไม่เต็มร้อย พร้อมสั่งจัดทำงบฯ ปี 68 ลั่น กลางที่ประชุม ครม. “ในรัฐบาลนี้ไม่มีต่อเกษียณอายุราชการ เกษียณแล้วเกษียณเลย”
วันนี้ (9 ม.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2/2567 ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ขอบคุณทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงบประมาณ ช่วยกันจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกแล้ว พร้อมกำชับว่ารัฐบาลนี้เพิ่งเข้ามาใหม่ การตั้งหลักในการทำงบประมาณก็ยังไม่เต็มร้อย และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ขณะนี้ที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว ขอให้ทุกหน่วยงานที่จะเสนองบประมาณในปี 2568 ขอให้นำนโยบายของรัฐบาลมาเป็นจุดเน้น สะท้อนนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจน มีตัวชี้วัดในการดำเนินแผนงานโครงการ ส่วนจะเพิ่มหรือลดงบประมาณในโครงการใดก็ตาม ต้องสามารถอธิบายเหตุผลและความจำเป็นได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ให้ทุกกระทรวง และหน่วยงานของรัฐ ที่มีการตั้งงบประมาณเพื่อจัดหาระบบคราวน์ ฉลองกรมการออกไปเพื่อรอความชัดเจน เกี่ยวกับนโยบายโครงสร้างพื้นฐาน ด้านดิจิทัลหรือ National Cloud ของไทย และหลังจากนี้ต่อไป ในรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการต่ออายุเกษียณอายุราชการ เกษียณแล้วเกษียณเลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มีการผ่อนผันให้ผู้มีทะเบียนบ้านชั่วคราวสามารถขอใช้ไฟฟ้า และน้ำประปาได้รวดเร็วขึ้น และที่สำคัญจากการลงพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรีมีประชาชน 3 หมื่นกว่าครัวเรือน ที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของรัฐหรือของเอกชน อยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งไม่สามารถขอใช้น้ำประปาและไฟฟ้าได้ โดยในรัฐมนตรีสั่งการให้ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้มีการ สั่งว่าห้ามไม่ให้มีการจ่ายน้ำประปาหรือไฟฟ้าในพื้นที่ที่ยังไม่มีการพิสูจน์สิทธิ โดยนำร่องในพื้นที่กาญจนบุรี และให้รายงานตอนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใน 1 เดือน พร้อมมีการเห็นชอบให้ขยายไปยังจังหวักอื่นที่มีความพร้อม พร้อมสั่งการเร่งรัดให้พิสูจน์สิทธิ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และให้ถือว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็น KPI ของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการ