จับตาเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศวันนี้ ยังไม่ถึง 400 บาท เตรียมชง ครม.สัปดาห์หน้า

วันนี้ (8 ธ.ค.66) เวลา 09.30 น. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 หรือคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567

นายไพโรจน์ เปิดเผยก่อนการประชุมว่าการประชุมวันนี้เป็นการสรุปอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 คงใช้เวลาประชุมพอสมควร เพราะคณะกรรมการไตรภาคีต้องเสนอและต่อรองหลังจากไตรภาคีแต่ละจังหวัดเสนอเข้ามาให้คณะกรรมการวิชาการพิจารณา คงต้องฟังเหตุผลทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง

สำหรับอัตราการปรับขึ้นคาดว่าจะอยู่ที่ 3.26% แต่ยังไม่ยืนยัน เพราะที่ประชุมอาจปรับเปลี่ยนไปตามความสมเหตุสมผล อัตราการปรับขึ้นของแต่ละจังหวัดขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมีวิธีคำนวณอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดได้ว่าในกลุ่มจังหวัดเศรษฐกิจจะปรับขึ้นสูงสุดได้เท่าไร

ส่วนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไปถึง 400 บาทนั้น อาจจะยังไม่ถึง 400 บาท เพราะต้องรับฟังเหตุผลจากทุกฝ่าย แต่หากวันนี้ขึ้นได้ไม่ถึงก็อาจจะมีการปรับขึ้นอีกครั้ง หลังจากนี้อีก 6 เดือน เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุว่า 1 ปีสามารถพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงได้กี่ครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มประชุมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางมาพบปะกับคณะกรรมการไตรภาคี พร้อมระบุว่าไม่ได้มาแทรกแซงหรือชี้นำ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ขอให้ทุกฝ่ายหารือ นำองค์ประกอบของแต่ละจังหวัดมาเป็นฐาน

การประชุมวันนี้มีข้อสรุปมาจากคณะกรรมการไตรภาคี ทั้ง 77 จังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร การปรับค่าแรงขั้นต่ำจะต้องพิจารณา 3 ครั้ง ครั้งแรก คณะกรรมการไตรภาคีระดับจังหวัด ครั้งที่ 2 คณะกรรมการวิชาการ กระทรวงแรงงาน ครั้งที่ 3 คณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่ ส่วนจะปรับขึ้นถึง 400 บาทหรือไม่ ไม่กล้าพูด เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการไตรภาคี แต่สิ่งที่พูดได้คือทุกจังหวัดมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพ โดยเฉพาะจังหวัดที่รัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องเศรษฐกิจ ค่าจ้างขั้นต่ำก็จะสูงตามไปด้วย

ส่วนค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ เพราะนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ให้ไว้ตอนหาเสียงคือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 ตอนนี้ยังมีเวลาในการพัฒนา เนื่องด้วยเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกยังไม่ดีเท่าที่ควร การมีสารตั้งต้นว่าปีนี้จะต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เป็นเรื่องจริงหรือมีการแถลงจากรัฐบาลหรือไม่ แต่ถ้าปีนี้มีสารตั้งต้นที่ดีขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ บางจังหวัดอาจใกล้เคียงหรือไปถึง 400 บาทก็ได้

โดยก่อนหน้านี้ได้เชิญคณะกรรมการ SMEs มาพูดคุยซึ่งกลุ่ม SMEs สะท้อนว่าหากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเท่ากันในอัตรา 400 บาท อาจทำให้ SMEs ประมาณ 20-30% ในประเทศต้องปิดตัวลง เพราะสู้ค่าแรงไม่ไหว ในฐานะที่ตนเองดูแลกระทรวงแรงงานคงรับสภาพนี้ไม่ได้ ดังนั้นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจึงเป็นเรื่องของไตรภาคีระดับจังหวัด

เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดว่าค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศต้องขึ้นในอัตรา 3.26% เพราะค่าแรงขั้นต่ำขึ้นตามความเจริญเติบโตของแต่ละจังหวัด ยกตัวอย่างจังหวัดภูเก็ตที่รัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องเศรษฐกิจ หากขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอัตรา 3.26% ก็คงเป็นการด้อยค่า และเอาเปรียบผู้ใช้แรงงาน อย่างไรก็ตามปีนี้มี 5 จังหวัดที่ไม่เสนอขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่เราก็จะขึ้นให้ หนึ่งในนั้นมีจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากอาจจะคิดว่า มีอัตราค่าแรงสูงสุด 354 บาท เท่ากับจังหวัดระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

นายพิพัฒน์ ย้ำว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องของคณะกรรมการไตรภาคี ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตนเองพร้อมยอมรับไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ โดยจากนี้จะต้องนำผลสรุปของคณะกรรมการไตรภาคีเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ และหากเศรษฐกิจดีเชื่อว่าปีหน้าอาจจะได้เห็นค่าแรงขั้นต่ำในอัตรา 400 บาทในหลายจังหวัด

ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการขึ้นแรงขั้นต่ำนี้ จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแรงงานหรือไม่ นายพิพัฒน์ ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่ยิ้มแล้วยกนิ้วโป้งให้