POLITICS

นายกฯ เผย เตรียมมาตรการเศรษฐกิจเฟสถัดไปไว้แล้ว ย้ำ ยึดถือวินัยการเงินการคลังสำคัญที่สุด

นายกฯ เผย เตรียมมาตรการเศรษฐกิจเฟสถัดไปไว้แล้ว ย้ำ ยึดถือวินัยการเงินการคลังสำคัญที่สุด ปัด มองไกลอีก 4 ปี ขอทำ 4 เดือนนี้ให้รอดก่อน ยัน ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้มาจากการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย แต่มาจากการคอรัปชั่น ชี้ ญี่ปุ่น – อังกฤษ เปลี่ยนรัฐบาลมากกว่าไทยอีก

วันนี้ (8 ต.ค. 68) ที่โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ ถนนรางน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าโครงการคนละครึ่งพลัสนั้น จะมีโครงการอะไรที่จะเดินหน้าต่ออีกบ้าง ว่า จะพยายามวางรากฐานให้เศรษฐกิจมั่นคงแข็งแกร่ง ให้มีการกระจายรายได้ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะสิ้นปีนี้ และจะใช้เวลา 4 เดือนที่รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ในการวางแนวทาง และรากฐานที่ดี เพื่อที่รัฐบาลชุดต่อไปที่เข้ามา สามารถเดินหน้าต่อยอดได้เลย ซึ่งจะมีมาตรการเฟส 1 เฟส 2 เตรียมไว้อยู่ รวมถึงเรื่องท่องเที่ยวด้วย

ส่วนงบประมาณที่ใช้ในแต่ละโครงการมีเพียงพอหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยึดถือวินัยการเงินการคลังสำคัญที่สุด ไม่ใช่เราใช้เงินไปแจกประชาชนทั้งหมด แต่เราให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งรัฐก็สามารถนำงบประมาณ​ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ไปชำระหนี้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. ได้ ซึ่งเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังเป็นที่ประจักษ์ชัด และทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้มีเป้าหมายที่สำคัญในการรักษาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการผลักดันให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนนนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เราตั้งเป้าหมาย เพราะไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้มาโดยตลอดแทบจะทุกมิติ ไม่ว่าเป็นเรื่องการเงิน การท่องเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรม แต่ที่ผ่านมาไทยอาจไม่เน้นการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น อาจยึดติดกฏระเบียบเดิมอาจไม่สอดคล้องกับกติกาใหม่ของโลกปัจจุบัน เราก็ต้องกลับมาตั้งเป้าหมายใหม่ และยังเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีภูมิรัฐศาสตร์ที่ดี ได้เปรียบประเทศอื่นๆ

“ไม่เสียหายอะไรที่เราจะตั้งเป้าว่า เราจะกลับมาเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ได้ในระยะเวลารวดเร็ว” นายอนุทิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะได้เปรียบด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ คือ ความต่อเนื่องทางการเมืองซึ่งถือเป็นจุดอ่อน นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องการคอรัปชั่น เมื่อเราสร้างระบบสังคมดิจิทัลจะบังคับให้การกระทำที่เป็นการทุจริตตรวจสอบได้ เราจึงต้องไปพัฒนาระบบข่าวสาร เอไอ ดิจิทัล ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เราต้องสร้างระบบขึ้นมาที่ทำให้คนที่อยู่ในสังคม หรืออยู่ในระบบคิดพิเรนอีกต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อมั่นว่า เรื่องการเมืองยังนิ่งพอสมควรแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เราก็ทำตามที่เราข้อตกลงกับทุกๆ ฝ่าย และตั้งหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และในปีหน้าก็มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคไหนทำดี ฝีมือดีก็เลือกกลับทำงาน

ส่วนการเปลี่ยนตัวรัฐบาล หรือ เปลี่ยนผู้นำบ่อยๆ จะส่งผลต่อนักลงทุนที่เข้ามาลงทุน นายอนุทิน มองว่า ญีปุ่นหรืออังกฤษเปลี่ยนบ่อยกว่าไทย ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ที่ระบบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ความมุ่งมั่นในการสร้างหลักนิติธรรม หลักธรรมาภิบาล ใครจะไปจะมาไม่สำคัญกับใครวางระบบที่ดี

ส่วนหากรัฐบาลวางรากฐาน 4 เดือนนี้ได้ แล้วรอบหน้า นายกรัฐมนตรีกลับมา เศรษฐกิจจะเติบโตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอา 4 เดือนนี้ให้รอดก่อน และให้รัฐบาลได้ทำทุกอย่างอย่างที่เราตั้งใจให้เกิดขึ้น ซึ่งดีใจมากที่โครงการคนละครึ่ง พลัส เกิดแล้ว และการคืนหนี้ให้กับธ.ก.ส. เกิดขึ้นในวันแรกของการทำงานของรัฐบาล หลังจากการทำงานของรัฐบาล

“อะไรเริ่มต้นดี จากการกลัดกระตุมแรกถูก ควรจะถูกไปเรื่อยๆ ยกเว้นมีใครไม่ประสงค์ดีซะก่อน” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การมีทีมเศรษฐกิจที่ดี ส่งผลต่อเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลต่อไปยังพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีแต่พรรคประเทศไทย เราทำงานเต็มที่เพื่อประเทศไทย เรายังปัญหาเพื่อนบ้าน ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และทำความชัดเจนให้เขารับทราบ เราจะยอม เราจะอ่อนค้อโดยที่เขาไม่ทำอะไรเลย คงเป็นเพียงความฝัน เขาต้องทำทุกอย่างตามที่เรากำหนดไว้ สิ่งที่เรากำหนดไม่ใช่สิ่งที่ยาก แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความปลอดภัยกับคนไทย ก่อให้เกิดความชัดเจนต่ออธิปไตยของประเทศนี้ และก่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในภูมิภาคนี้ ซึ่งเขาต้องทำตาม

Related Posts

Send this to a friend