POLITICS

‘ชัชชาติ’ สั่งศึกษาการใช้ กัญชา-กระท่อมทางการแพทย์ ห่วงเด็กและเยาวชนใช้ในทางที่ผิด

‘ชัชชาติ’ สั่งศึกษาการใช้กัญชา-กระท่อมทางการแพทย์ ขอโรงเรียนให้ข้อมูลที่ถูกต้อง หลังพบดินแดงขายกระท่อมเรียงเป็นตับ ห่วงเด็กและเยาวชนใช้ในทางที่ผิด

วันนี้ (8 ต.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับสำนักงานเขตดินแดงว่า เขตดินแดงเป็นเขตที่มีผู้ใช้แรงงานเยอะ มีแฟลตต่าง ๆ อยู่ในพื้นที่จำนวนมาก วันนี้ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสนใจอยู่ เพราะศูนย์สาธารณสุขของอกทม.ทั้ง 69 แห่ง ให้คำปรึกษาเรื่องยาเสพติด แต่ศูนย์ที่รักษายาเรื่องเสพติดโดยตรงมีเพียง 18 ศูนย์ โดยจะเน้นเฮโรอีนกับยาบ้า แต่เฮโรอีนจะมีการให้ยาทดแทน ซึ่งปกติแล้วหนึ่งศูนย์จะมีคนมารักษาประมาณ 60 คน รวมแล้ว กทม.ดูแลเรื่องยาเสพติด 1,080 คน เฉพาะในศูนย์สาธารณสุข และมีอีก 2 แห่ง คือศูนย์พิชิตใจเป็นศูนย์ที่อยู่ยาวตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินธร โดยจะเข้าคอร์สอยู่ประมาณ 1 เดือน ปัจจุบันมีผู้รักษาอยู่ประมาณ 35 คน อีกหนึ่งที่อยู่ที่โรงพยาบาลตากสิน

ปัญหาของการเสพยาบ้าคือไม่มีการให้ยารักษา แต่เฮโรอีนมีตัวยาทดแทนที่ให้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ป่วย 100% จะมีคนรักษาเฮโรอีน 80% รักษายาบ้า 20% ซึ่งเข้าใจว่ายาบ้าน่าจะมีมากกว่าเฮโรอีน แต่ไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา อีกอย่างคือ การใช้ใบกระท่อมกับกัญชา ซึ่งข้อมูลที่รายงานมา มีหลายบ้านที่มีการปลูกใบกัญชาและใบกระท่อม และทุกคนมีความเชื่อว่า กินพวกนี้แล้วจะลดความดัน ลดเบาหวาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีการเก็บข้อมูลต่อไป เพราะว่ากลายเป็นสิ่งที่หลายบ้านมีอยู่ประจำบ้าน พอกินเข้าไปบางครั้งทำให้ไม่ได้รักษาตามแผนปัจจุบัน จึงต้องเก็บข้อมูลต่อไปว่าสุดท้ายแล้วได้ผลเป็นในทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ หากหยุดยาแผนปัจจุบันไป ซึ่งช่วงแรกอาจจะดีขึ้น ในแง่สภาพจิตใจแต่ในระยะยาวต้องไปดูว่าได้ผลดีเสียอย่างไร

ทั้งนี้ในพื้นที่ดินแดงมีผู้ใช้แรงงานค่อนข้างเยอะ จึงเป็นกลุ่มตัวอย่างที่สามารถศึกษารายละเอียดได้ และให้เฝ้าระวังผลกระทบต่อประชาชนด้วย ซึ่งหากเด็กและเยาวชนเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องว่า แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ต้องเน้นไปที่โรงเรียนด้วย จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ดินแดงใบกระท่อมขายเยอะมาก ซึ่งถนนประชาสงเคราะห์ใบกระท่อมขายเรียงกันเป็นตับ ดังนั้นโรงเรียนต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสีย เราต้องให้ข้อมูลในแง่การรักษาพยาบาลและโรงเรียนที่อยู่ในกำกับดูแลของกทม

ส่วนการดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดูเข้มข้นเรื่องการเข้าถึงพื้นที่ของผู้ปกครองที่จะมารับเด็ก หามาตรการจำกัดบริเวณเข้าออก เพื่อลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดปัญหา ขณะเดียวกันต้องระวังสถานที่อื่นด้วย โดยเฉพาะศูนย์สาธารณสุข ซึ่งมีศูนย์ดูแลผู้ติดยาคงต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะจะมีคน 100 คนรับยาทุกวัน

Related Posts

Send this to a friend