POLITICS

พิมพ์ภัทรา เตรียมนำเรื่อง ‘เงินค้างจ่ายค่าตัดอ้อยสด’

หารือนายกฯ ชี้อาจไม่ทันรอบเดือนตุลาคม เนื่องจากความล่าช้าช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ด้านชาวไร่อ้อยพอใจ พร้อมให้ความร่วมมือลดปัญหา PM 2.5

วันนี้ (8 ก.ย. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมเกษตรกรชาวไร่อ้อย 38 แห่งจากทั่วประเทศ เพื่อรับทราบแนวทางแก้ปัญหาอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบ โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วน เรื่องความชัดเจนนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม หลังการเปลี่ยนรัฐบาลเกี่ยวกับเงินสนับสนุนการตัดอ้อยสด แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จำนวน 120 บาทต่อตัน และแนวทางการแก้ปัญหาภาวะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำตาล

นายปารเมศ โพธารากุล ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวไร่อ้อยถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 จากการเผาไร่อ้อย ทั้งที่จากข้อมูลระบุว่า ‘ฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดจากอ้อยไฟไหม้มีอยู่เพียงแค่ไม่ถึง 10% ของฝุ่นที่เกิดขึ้น’

ขณะเดียวกัน เกษตรกรชาวไร่อ้อยต่างก็ยืนยันว่ายินดีที่จะช่วยลดปัญหา PM 2.5 โดยเข้าร่วมพันธสัญญาตามนโยบายภาครัฐในการตัดอ้อยสดที่มีต้นทุนสูง และรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวน 120 บาทต่อตัน ซึ่งดำเนินการมา 2 ปีแล้ว กระทั่งช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำให้เงินสนับสนุนถูกชะลอออก สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งประเทศ เนื่องจากใกล้จะถึงฤดูกาลหีบอ้อยใหม่ ประกอบกับภัยแล้งในอนาคต อาจเป็นอุปสรรคต่อ จึงอยากขอความอนุเคราะห์ดำเนินการเรื่องเงินสนับสนุนการช่วยเหลือการตัดอ้อยให้ถึงมือเกษตรกรภายในเดือนตุลาคม รวมทั้งขอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนในรอบปีใหม่ด้วย

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า อ้อยเป็นปัญหาสำคัญที่ถูกพูดถึงมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องการจ่ายเงินล่าช้า เนื่องจากติดช่วงเวลาของการเปลี่ยน จึงอยากชี้แจงว่าเงินสนับสนุน 120 บาทต่อตัน คือการลงทุนของรัฐ รัฐอยากเห็นว่าสามารถลดการเผาอ้อยลงได้ จึงอยากให้เกษตรกรสื่อสารออกมาว่าการที่รัฐสนับสนุนทำให้ลดการเผาได้ตามเป้าหมาย ซึ่งหากทำได้ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการสนับสนุนต่อไป

สำหรับเงินสนับสนุนของรอบปีที่ผ่านมา นโยบายต้องใช้งบประมาณราว 8,000 ล้านบาท ที่ต้องขอวงเงินจากรัฐบาลใหม่ โดยงบประมาณดังกล่าวไม่ผูกพันกับงบประมาณใหม่ ปี 2567 ซึ่งหลังทราบตนและทีมทำงานได้นำปัญหาไปปรึกษากับนายกฤษฎา จินะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เพื่อหาแนวทางในการใช้กรอบวงเงินก่อนนำเข้าหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม อาจไม่ทันเดือนตุลาคม เนื่องจากมีความล่าช้าของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

“หลังทราบปัญหา ทุกฝ่ายไม่ได้เพิกเฉยและได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ บางช่วงเวลาอาจจะติดกรอบระยะเวลาที่มีอุปสรรค แต่ขอให้มั่นใจในรัฐบาลและข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ตั้งใจทำงานเพื่อเกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างจริงใจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

ภายหลังจากรับฟังคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เกษตรกรชาวไร่อ้อยแสดงความพอใจพร้อมกล่าวว่าถือเป็นความชัดเจนหลังจากที่รอคอยคำตอบมานาน และมั่นใจว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาของเกษตรกรชาวไร่อ้อยได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat