POLITICS

‘ส.ต.ต.พิจักษณ์’ ขอบคุณ ‘พีระพันธุ์’ ช่วยประสานเข้าเรียนนายร้อยได้ จากปัญหาพิสูจน์สถานะ

‘ส.ต.ต.พิจักษณ์’ นำพวงมาลัยเข้าขอบคุณ ‘พีระพันธุ์’ หลังช่วยประสานเข้าเรียนนายร้อยได้ จากปัญหาพิสูจน์สถานะครอบครัว ยืนยันพ่อเป็นคนไทย

วันนี้ ( 8 พ.ค..67 ) เวลา 13.15 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ส.ต.ต.พิจักษณ์ ทองใสเกลี้ยง ผบ.หมู่ ฝทว. 7 ทว. ปรก.ฝอ.ทว. หรือ หมู่เปาเปียว เข้าพบและมอบพวงมาลัยเพื่อขอบคุณ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ช่วยติดต่อประสานเรื่องที่ขาดคุณสมบัติหรือเอกสารของบิดาที่จะต้องใช้ในการยื่นให้กับโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าตำรวจ

“สูติบัตรของผม ไม่ปรากฏบิดาโดยกำเนิด จึงไม่มีเอกสารเอาไปยื่นต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งต้องเข้ารายงานตัว วันที่ 10 พ.ค. 67 และรายตัวต่อโรงเรียนเตรียมทหาร 12 พ.ค. 67 ซี่งท่านพีระพันธุ์ ได้ให้ความช่วยเหลือ ประสานกับทางโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ให้พิจารณาคุณสมบัติของผมอีกที“ สิบตำรวจตรี พิจักษณ์กล่าว

สิบตำรวจตรีพิจักษณ์ กล่าวต่อว่าสาเหตุที่ตนเองไม่เข้าเกณฑ์ในการเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารนั้น เนื่องจากในสูติบัตรไม่ปรากฏชื่อของบิดาโดยกำเนิด จึงทำให้ไม่มีเอกสารของบิดา ที่จะต้องยื่นให้กับทางโรงเรียนเตรียมทหารได้ ซึ่งมองว่าเงื่อนไขนี้อาจเป็นการปิดกั้นโอกาสของเด็กรุ่นใหม่ ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ เพราะด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เรื่องแบบนี้ของแต่ละครอบครัวจึงไม่เหมือนกัน บางคนพ่อกับแม่อาจจะให้กำเนิดมาโดยไม่ตั้งใจ หรือไม่ได้อยากมีลูก จึงทำให้ขาดเอกสารเหมือนตนเองหรือบางคนอาจจะต่างออกไปแต่คล้ายคลึงกัน

อย่างไรก็ตาม กว่าจะมาถึงจุดนี้ตนเองใช้เวลา 5-6 ปี มีความตั้งใจที่จะเป็นตำรวจตั้งแต่เด็ก มีความชอบส่วนตัว รวมถึงมีน้ารับราชการตำรวจด้วย ตนจึงพยายามสอบเข้าตั้งแต่มัธยมตอนปลาย

ด้านนายพีระพันธุ์ รับพวงมาลัย พร้อมกล่าวอวยพร และให้สัมภาษณ์ว่า น้องได้มาขอความช่วยเหลือหลังจากที่เป็นนักเรียนนายสิบแล้ว ก็ไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ แต่ก็มาเกิดปัญหาตามที่เป็นข่าว จึงได้เชิญแม่มาพูดคุย และให้คนไปตรวจสอบพื้นที่ ก็เชื่อว่าพ่อของน้องเป็นคนไทยแน่นอน มีตัวตนจริง เพียงแต่ตามตัวไม่เจอ แต่คนที่อยู่ในพื้นที่รู้จัก จึงเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง และให้หน่วยงานต่างๆ ไปช่วยดูว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องขอบคุณอธิบดีกรมราชทัณฑ์ซึ่งเป็นต้นทางในการให้ข้อเท็จจริง รวมถึงรักษาการ ผบ.ตร. ที่ดูแลเป็นอย่างดี ส่วนหน่วยงานต่างๆ ก็ให้ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง จึงขอให้น้องประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชน ตัวเองเคยผ่านเรื่องเดือดร้อนมามากวันนี้จะมีโอกาสดูแลคนอื่น ก็ขอให้ทำหน้าทีให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าจากกรณีนี้ไม่จำเป็นจะต้องมีการแก้กฎหมายหรือกฎระเบียบ เพราะหน่วยต้นสังกัด คือตำรวจ ตรวจสอบหมดแล้ว

Related Posts

Send this to a friend