POLITICS

‘วิทยา’ เผย ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม. จากนายกฯ เชื่อ ปรับใน ‘พรรคเพื่อไทย’

‘วิทยา’ เผย ยังไม่มีสัญญาณปรับ ครม. จากนายกฯ เชื่อ ปรับใน ‘พรรคเพื่อไทย’ ไม่กระทบพรรคร่วมฯ ชี้ ‘เศรษฐา‘ เป็นนายกฯ ตัวจริง

วันนี้ (8 เม.ย. 67) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับสัญญาณหรือไม่ ว่า โดยปกติการจะปรับ ครม. จะกระทบเฉพาะพรรคแกนนำรัฐบาล และเป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งดูจากกระแสแล้วภายในพรรคเพื่อไทย มีความจำเป็นต้องปรับ ครม. เพราะมีบุคคลที่เหมาะสม และตกค้างขบวนหลายคน แต่การจะปรับกระทบไปถึงพรรคอื่น สิ่งที่ต้องทำคือตัวนายกรัฐมนตรีเอง จะต้องมีการหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนที่มีความประสงค์จะปรับ ครม. โดยได้คุยกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านบอกยังไม่มีสัญญาณอะไรมาถึง ฉะนั้น ขอให้ทุกคนในพรรคอยู่นิ่ง ๆ เพราะยังไม่มีเรื่องของการปรับ ครม. แน่นอน หากจะมีคนที่รู้คนแรกคือหัวหน้าพรรค

ส่วนถ้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีจริง ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีการสลับสับเปลี่ยนหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงในเรื่องนี้ เพราะคิดว่ายังไม่มีการปรับกระทบมาถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการประเมิน ครม. ในส่วนของพรรคหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า แน่นอน ประเมินแน่ แต่ตอนนี้รัฐมนตรีเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่กี่วัน และบางคนทำงานได้ดี แต่อาจมีบุคลิกที่พูดน้อยก็ต้องปรับปรุง ขณะที่หัวหน้าพรรคก็พยายามแลกเปลี่ยนกับทุกคนมาตลอด แต่ตนคิดว่ามาถึงวันนี้อารมณ์ของคนในพรรคไม่ได้มีความกระตือรือร้นในเรื่องของการปรับ ครม. เพราะคิดว่าไม่เกี่ยวกับเรา

ส่วนเงื่อนไขตอนตั้ง ครม. ได้มีข้อตกลงว่าจะเป็นรัฐมนตรีกันกี่เดือนนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องเงื่อนเวลา ไม่ได้มีการพูด แต่บอกทุกคนว่าทุกอย่างมีการปรับเปลี่ยนได้ แต่เรื่องเวลาไม่เคยมีการกะเกณฑ์ไว้ว่า 3 เดือนหรือ 6 เดือนต้องเปลี่ยน เมื่อถามว่าในพรรคมีการวางเงื่อนไขการปรับครม. ได้อย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ในชั้นนี้ยังไม่ได้มีการประเมินและยังไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร

ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยว่าจะมีอดีต สส. หรือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไหลกลับมา ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติมีหรือไม่ ที่จะกลับไปสังกัดพรรคเดิม นายวิทยา กล่าวว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เคยอยู่ แต่เท่าที่ฟังดูยังไม่มีอารมณ์อย่างนั้น และมีไม่กี่คนที่ยังเป็น สส. ในวันนี้ ซึ่งจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนยังไม่มีกระแสนี้ ส่วนคนของพรรคประชาธิปัตย์จะมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มหรือไม่นั้นอันนี้ไม่แน่ เพราะมันอีกยาว คิดว่าการเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นจริงก็ตอนใกล้ๆที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในยุบสภา ซึ่งบรรยากาศทางการเมืองในวันนี้ มีการพูดถึงเรื่องการปรับ ครม. แต่ยังไม่พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนนายกฯ แต่ถ้าคิดถึงการเปลี่ยนนายกฯเมื่อไหร่ก็จะมาคู่กับการยุบสภา เพราะอำนาจนายกฯยุบสภาได้และคิดเปลี่ยนได้ และวันนี้คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนภายในพรรคแกนนำมากกว่า แต่หากมากกว่านั้นจะสะเทือนองคาพยพทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรในบรรยากาศวันนี้ที่ดูเหมือนมีนายกรัฐมนตรี 3 คน นายวิทยา กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่พูดไป แต่นายกรัฐมนตรีต้องยอมรับความจริงว่ามีคนเดียวคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และท่านไม่ได้เป็นนายกฯ เล่น ๆ หรือเป็นตัวแทนใคร วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่าท่าน เชื่อว่าท่านมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูงจากการที่ติดตามมา ไม่ใช่คนที่ว่าจะฟังใครง่าย ๆ ลองขู่ให้ท่านลาออกสิ ตนเองคิดว่าอาจจะเจอดาบเชือดคอ หากท่านยุบสภาจะว่าอะไรได้ อำนาจมีอยู่ในมือนายกฯที่จะยุบสภา มากกว่าการลาออก ถ้าจะให้นายกฯ ลาออกจริง ๆ ก็ต้องเอานายกฯ ให้ติดคุกหลุดจากตำแหน่ง แต่หากจะใช้วิธีกดดันทางการเมืองผมคิดว่าไม่มีทาง เราเคยเจอมาขู่นายกฯ รับปากว่า 7 วันจะลาออก พอวันที่ 5 ท่านยุบสภาเลยผมเจอมาแล้ว เพราะอำนาจนายกฯมีจริง หากฟังเล่น ๆ มองว่าใช่เมื่อไหร่ก็ได้ ผมว่าไม่จริง

ส่วนการอภิปรายที่ผ่านมา ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรไม่เหมือนการเมืองยุคเก่า นายวิทยา กล่าวว่า มันเป็นท่าทีของฝ่ายค้านว่าสวมวิญญาณของฝ่ายค้านเสร็จหรือยัง การอภิปรายถึงจะเป็นอะไรขึ้นจริง คงมีไม่กี่ท่านที่มีวิญญาณฝ่ายค้านจริงๆ เหมือนที่เราประเมินว่าดูเหมือนอยากเป็นรัฐบาลมากกว่าเป็นฝ่ายค้าน

ส่วนถ้ามีการส่งสัญญาณมาจากพรรคแกนนำรัฐบาลในการปรับ ครม. พรรครวมไทยสร้างชาติ จะนำมาพิจารณาปรับในสัดส่วนของพรรคด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยัง เพราะขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ ถ้าจะให้พรรคไหนปรับอะไร ขณะนี้ประเมินได้อย่างเดียว คือเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ ซึ่งเขาอาจจะต้องปรับขบวน เพราะมีนักการเมืองรุ่นใหญ่ๆ ตกขบวนหลายคน ย้ำว่า ต้องมีการหารือกัน ซึ่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ฉะนั้นท่านต้องหารือ หากจะมาชี้ว่าจะเอาคนโน้นคนนี้ออกก็ต้องมีคำอธิบาย ซึ่งคนที่ทำงานโดดเด่นอย่างหัวหน้าพรรคอาจจะไปเตะโดนหม้อข้าวหม้อแกงใครบ้างในเรื่องพลังงาน หากจะเอาท่านออกประชาชนคงรับไม่ได้

ส่วนการพูดเช่นนี้ แสดงว่ามีกระแสข่าวมาใช่หรือไม่ นายวิทยา ปฏิเสธตอบโดยกล่าวเพียงว่า ไม่ ตนเองพูด ๆ ไปจากที่ฟังจากสื่อ และการวิเคราะห์รวมถึงประเมินตามความเป็นจริง

สำหรับในส่วนของกระทรวงพลังงานจะมีคนนอกที่เป็นกลุ่มนายทุนพรรคเข้ามาหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ เพราะออกมาจากการประเมิน ฉะนั้น ถ้าออกจากการประเมินก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และจากที่ตนอ่านหนังสือพิมพ์ฟังจากโทรทัศน์ทุกช่องก็เห็นวิเคราะห์กัน ผิด 100 ครั้งก็ยังวิเคราะห์อยู่ ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา ตนขอให้เลิกวิเคราะห์เถอะหากมีข้อมูลจริงก็ขอให้นำมาพูดคุยกัน ฉะนั้นการที่จะมีการปรับใครออก ไม่ใช่ที่ตนพูดหรือสื่อวิเคราะห์กันไปเอง ไม่เช่นนั้นก็จะสนุกและผิดกันได้ทุกวันไม่ต้องรับผิดชอบอะไร และคนฟังก็กระเตื้องไปเรื่อย ๆ

Related Posts

Send this to a friend