‘ประชาธิปัตย์’ พร้อม สนับสนุนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางการเมือง

‘ประชาธิปัตย์’ แสดงจุดยืน เนื่องในวันสตรีสากล พร้อมผลักดัน “พลังหญิง ให้เป็นพลังของประเทศ” สนับสนุนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับท้องถิ่น-ระดับชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน

วันนี้ (8 มี.ค. 66) เวลา 12:00 น. พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ในฐานะกรรมการบริหารพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกหญิงของพรรค ร่วมกันแถลงการขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับผู้หญิง เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล (International Women’s Day)

ดร.คุณหญิงกัลยากล่าวว่า จากประสบการณ์ และการศึกษาที่ผ่านมา พูดได้ว่าการศึกษาสร้างเงิน การศึกษาสร้างคน และการศึกษาสร้างชาติ ซึ่งผู้หญิงจะเป็นตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ เหล่านี้อย่างไม่หยุดยั้ง แม้ว่าวิทยศาสตร์จะก้าวหน้าไปถึงไหน แต่ถ้ามีผู้หญิงที่เข้มแข็ง และได้รับการศึกษา จะสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ด้าน น.ส.รัชดา กล่าวว่า วันนี้รู้สึกภูมิใจที่จะได้แสดงจุดยืนของพรรค และความพร้อมของสมาชิกหญิง ที่จะเป็นตัวแทนผู้หญิงทั้งหมดในการขับเคลื่อนพลังหญิง และพลังของสังคม ซึ่งในวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ทั่วโลกได้กำหนดให้เป็นวันสตรีสากล เพื่อตอกย้ำว่า การจะพัฒนาอย่างยั่งยืนต้องมีผู้หญิงเป็นส่วนร่วม ขณะเดียวกันยังสะท้อนเห็นว่าในสังคมยังมีการกีดกัน และมีความไม่เท่าเทียม ที่ทำให้ผู้หญิงเป็นกลุ่มคนที่ยังด้อยโอกาสอยู่

ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมือง ขอแสดงจุดยืนว่า เราสนับสนุนพลังหญิงให้เป็นพลังของประเทศ ที่จะไป “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

อีกทั้ง เนื่องในวันสตรีสากล และเข้าใกล้วันเลือกตั้ง เร็วๆ นี้ พรรคประชาธิปัตย์ขอเน้นย้ำว่า เราจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาความไม่เสมอภาค ปัญหาการกีดกันระหว่างเพศ ปัญหาการเลือกปฏิบัติ ไม่เท่าเทียม และจะสร้างความมั่นคงในผู้หญิงในการดำรงชีวิต โดยพรรคได้กำหนดนโยบายทุกด้านอย่างครอบคลุม รวมถึงการสนับสนุนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางการเมือง เพราะไม่มีใครเข้าใจหัวอกผู้หญิงได้ดีเท่ากับผู้หญิงด้วยกันอย่างแน่นอน

ดังนั้น จุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาให้ตรงจุด จะต้องมีนักการเมืองที่เป็นผู้หญิงที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกับองค์กรที่กำหนดนโยบาย ซึ่งวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อม และมีนักการเมืองที่เป็นผู้หญิงจำนวนมาก และมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความโดดเด่นในเรื่องนี้ เพราะเรามี ส.ส. หลายสมัย และรัฐมนตรี นักธุรกิจ นักสิ่งแวดล้อม นักวิชาการ และผู้ที่ทำงานกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่เป็นผู้หญิง ครอบคลุมไปถึงผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ และเชื่อมั่นใจว่าคนของเราจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เข้าใจหัวอก และพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำงานเคียงคู่กับภาคประชาสังคมที่ทำงานในเรื่องผู้หญิง

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่ครอบคลุมตอบโจทย์ปัญหาของผู้หญิงกังวล อาทิ นมโรงเรียน 365 วัน ศูนย์เด็กเล็กที่มีคุณภาพ การยกระดับการดูแลผู้สูงอายุ ไปจนถึงชุดนโยบายที่ดูแลผู้หญิงโดยเฉพาะ อย่างการส่งเสริมผู้หญิงให้เป็นผู้ประกอบการ การส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้แข็งแรงของแม่เลี้ยงเดี่ยว การผลักดันสวัสดิการดูแลตัวแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ที่ครบวงจร การยกระดับคุ้มครองแรงงานเด็ก และสตรีให้เป็นไปตามสากล เป็นต้น

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันทางการเมือง ที่ส่งเสริมให้มีนักการเมืองหญิงตั้งแต่วันที่ก่อตั้งพรรค รวมทั้งการอบรมหลักสูตรนักการเมืองหญิง ซึ่งในวันนี้เราจะผลักดันให้ผู้หญิง เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่น และระดับประเทศ หรือการจัดโควต้าให้มีผู้หญิงนั่งอยู่ในคณะกรรมการชุดสำคัญ เพื่อตัดสินใจในนโยบาย

ขณะที่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในการเป็นสมาชิกเพื่อยืนยันในความสำคัญของผู้หญิง ที่พรรคตระหนักถึงความเท่าเทียมระหว่างเพศ โดยระบบความคิดแต่ก่อนที่ว่าชายเป็นใหญ่ ทำให้พวกเราทุกคนเป็นเหยื่อของผู้ที่ตกอยู่ในกรอบความคิด ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชาย ที่ทำให้ผู้หญิงไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพ และก่อให้เกิดอุปสรรคของพวกเราในการทำงาน

วันนี้ ความหลากหลายเพศ ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหญิง ซึ่งในตอนนี้เรามีความหลากหลายทางเพศที่มากกว่านั้น และเราต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงวงการวิทยาศาสตร์ที่เคยกำหนดว่า เพศมีเพียงชายกับหญิง แต่ปัจจุบันสังคมที่ก้าวข้ามผ่านความหลากหลายทางเพศ และการแสดงออกทางเพศ พวกเขาไม่ได้ตระหนักเรื่องพวกนี้อีกต่อไป แต่พวกเขาตระหนักถึงเรื่องต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งตนอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความหลากหลาย ทั้ง วัย ชนชั้น ผู้ป่วยทุพพลภาพ คุณวุฒิ วัยวุฒิ และอุดมการณ์ทางการเมือง

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ และนักการเมืองควรตระหนักถึงการออกกฎหมายอย่างไร ที่จะสามารถโอบรับคนทุกคน ภายใต้ความหลากหลายที่ครอบคลุมมิติในสังคม และลดมิติ หรือลดช่องว่างทางความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้สามารถสร้างความเท่าเทียม และปลดปล่อยให้ทุกๆ คน คำนึงถึงศักยภาพของตนเองในการที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศชาติไปด้วยกัน และอยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันทำวันสตรีสากล ให้เป็นเริ่มต้นของวันเท่าเทียมในทุกมิติไปพร้อมกัน