POLITICS

‘อนุพงษ์’ เผย ครม.มีมติรับทราบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญา ร่วมลงทุน ’รถไฟฟ้าสายสีเขียว’

‘อนุพงษ์’ เผย ครม. มีมติรับทราบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ต้องทำความเห็นเพิ่มเติมชี้แจงความเห็นแย้งของกระทรวงคมนาคมโดยเร็วที่สุดโดยไม่กำหนดกรอบเวลา ยัน ภูมิใจไทยไม่ร่วมไม่มีปัญหาเพราะใช้มติ ครม.ด้าน นายกฯ หลังประชุมเสร็จขึ้นหารือต่อ อาคม-สุพัฒนพงษ์ คาดหารือเรื่องน้ำมัน

ภายหลังการประชุม ครม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีการเลื่อนวาระการพิจารณาผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว มาเป็นช่วงท้ายของการประชุมเพราะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมไม่เห็นด้วยกับร่างสัญญาดังกล่าวและลาการประชุมทั้งพรรค ซึ่งพลเอกประยุทธ์ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จากนั้นได้เดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้าโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพื่อหารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดมีการหารือเรื่องของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พลเอกอนุพงษ์ เปิดเผยว่าว่าที่ประชุมมีมติรับทราบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่จะต้องกลับไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมตามที่กระทรวงคมนาคมร้องขอและมีหนังสือส่งมาโดยไม่มีกำหนดเวลาตอบกลับจะทำเสร็จเมื่อไหร่ ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อแสดงจุดยืนในเรื่องดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ พลเอกอนุพงษ์กล่าวว่า ครม. เป็นอย่างไรก็อยู่ที่มติ ครม.

โดยในเอกสารความเห็นของกระทรวงคมนาคมยืนยันไม่เห็นด้วยกับข้อมูลที่ กทม.จัดทำเพิ่มเติมไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริง ที่ทำให้การวิเคาะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็นการคำนวณอัตราค่าโดยสาร การรองรับระบบตั๋วร่วม โดยมีความชัดเจนในประเด็นข้อกฎหมายซึ่งปัจจุบันการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ยังคงเป็นหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวรถไฟฟ้าทั้งสองช่วง อันเป็นสาระสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยต่อแนวทางการดำเนินการข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมขอให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกรณีที่ กทม. รายงายว่าการโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก รฟม.ยังไม่สรุปรายละเอียดด้านการเงินช่วงหมอชิต สะพานใหม่ คูคต ทำให้ไม่สามารถรับโอนโครงการได้อีกทั้งยังมีประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาติให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราช และแยกพุทธมลฑลสาย 2 ซึ่งรอการยืนยันจาก กทม. เพราะต้องพิจารณากรอบวงเงินโครงการ ดังนั้นการจะได้ข้อสรุปจะต้องทราบการชัดเจนการติดตั้งสะพานเหล็กทั้งสองแห่งเพื่อประกอบการทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ

Related Posts

Send this to a friend