POLITICS

’แพทองธาร‘ ลั่น ครอบครัว ‘ชินวัตร’ ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นของทุกคน

’แพทองธาร‘ ลั่น ครอบครัว ‘ชินวัตร’ ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นของทุกคน ชี้ พรรคได้ DNA มาจาก ‘ไทยรักไทย’ ไม่ใช่สายเลือดหรือตระกูล แต่เป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง มากกว่าการสร้างวาทะกรรม

วันนี้ (7 ธ.ค. 66) ที่กรีนเนอรี่ รีสอร์ต เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปิดงานสัมมนาประจำปีของพรรค โครงการเสริมสร้างศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง ในหัวข้อ “ถอนบทเรียนเพื่อไทย ผ่านวิกฤติเลือกตั้ง“

โดยช่วงหนึ่งของการกล่าวปิดงาน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เราก็ทราบอยู่แล้วว่า พรรคเพื่อไทยเรามีดีเอ็นเอมาจากพรรคไทยรักไทย ตนเองก็มีดีเอ็นเอมาจากผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่อย่างไรก็ตาม ดีเอ็นเอที่พูดถึงไม่ได้หมายความว่ามาจากสายเลือดหรือตระกูล แต่หมายความถึงจุดรวมของพวกเรา ว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นพรรคการเมืองที่อยากทำให้ประชาชนมีความผาสุก เน้นในเรื่องเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ ปากท้อง มากกว่าการที่จะสร้างวาทะกรรมทางการเมือง

ซึ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำผลงานอย่างรวดเร็ว และเถียงไม่ได้ว่าทำงานอย่างเต็มที่ รวมถึงรัฐมนตรีต่างๆ ที่ช่วยทำงานอย่างเต็มที่

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า โอกาสนี้จึงขออัญเชิญพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานให้แก่เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ไทย ที่ได้เข้าเฝ้าเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรงตัดถึงคนรุ่นใหม่ว่า ทุกคนในที่นี้ และพระองค์เองก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาแล้วทั้งนั้น ประโยคนี้สั้นๆ ลึกซึ้ง มีความหมายอย่างมาก แปลว่าคนเก่าของเรา ก็เคยเป็นคนรุ่นใหม่มาก่อน เราทุกวันนี้เป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร และมีความคิดที่จะช่วยกันรักษา ประเทศไทยของเราได้อย่างไร นั่นก็คือการหาอัพเดทความรู้ อัพเดทในสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้มากขึ้น ปรึกษากัน ให้ความรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ของเรา ซึ่งก็ต้องติดตามเรื่องของเทคโนโลยีด้วย เพื่อให้วัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าสามารถเอื้อประโยชน์ให้กันและกันได้

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของตน ก็จะทำงานให้มีประสิทธิภาพ นั่นก็คือการทำให้เสาหลักของเราทั้ง 3 ขา คือ รัฐบาล พรรค และสภาฯ โดยรัฐบาลต้อง ก็ต้องสร้างผลงานในการบริหารประเทศ ส่วน สส. ในสภาก็ต้องทำงานในการที่จะรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน เพื่อที่จะใช้พื้นที่ของสภาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ส่วนพรรคที่ตอนนี้กำลังทำอยู่ เช่นเรื่อง Digital life หรือข้อมูลทุกอย่าง โดยตลอด 20 กว่าปีที่ได้ตั้งพรรคมา ให้อยู่ในระบบที่เป็น digital ทั้งหมด สามารถเข้าถึง และใช้งานใช้ข้อมูลเหล่านั้น เพื่อที่จะทำงาน และสื่อสารกับพี่น้องประชาชนต่อไป

อีกทั้ง การทำระบบเครือข่ายที่จริงจัง ที่เราจะทำระบบระบบเครือข่ายเกี่ยวกับครอบครัวของพรรคเพื่อไทยให้มั่นคงมากขึ้น ทำให้พี่น้องสามารถเข้าใกล้เราได้ และเข้าใกล้การเมือง เข้าใจการเมืองเข้าใจการสื่อสารมากขึ้น ได้เข้าใจการทำงานมากขึ้น และการนำกลับมาทำใหม่ จะเปลี่ยนองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งวันนี้ก็มีวิทยากรมาสรุปภาพรวมให้ฟัง ว่าที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง การมองความจริงต่างๆ ที่พรรคนำมาใช้การเลือกตั้ง ในการหาเสียงที่ผ่านมา เป็นอย่างไรอะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล อะไรที่ควรที่จะต้องปรับปรุงใหม่ จึงอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ และได้ทบทวนตัวเอง เพื่อที่จะถอดบทเรียนออกมา และนำมาเรียนรู้กันต่อไป

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เน้นย้ำว่า ครอบครัวของตน ไม่ใช่เจ้าของพรรคเพื่อไทย แต่เราทุกคน คือเจ้าของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของผู้นำที่เก่ง ไม่ว่าจะเป็น นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกเศรษฐา จะทำสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมที่คอยให้ข้อมูล ทีมที่ดี ทีมที่เก่ง ทีมที่บอกว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนี้ควรเพิ่มเติม ซึ่งการนำของผู้นำที่ดี คือมีผู้ตามที่แข็งแรง เหมือนพรรคเพื่อไทยของเรา จึงจะทำให้ผู้นำที่ดี สามารถนำได้สำเร็จได้

“ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จนถึงทุกวันนี้ความสำเร็จทุกอย่างเป็นของพวกเราทุกคน ดิฉันขอให้ทุกคนคิดว่านี่คือบ้านของเรา พรรคเพื่อไทยคือบ้านของเรา ตั้งแต่ สส. เก่ายัน สส. ใหม่ นี่คือบ้านของเรา ต่อจากนี้จะสร้างบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงไปด้วยกัน ให้พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน และมีอะไรสามารถปรึกษาช่วยกันให้กำลังใจกัน แน่นอนว่ามีวันที่ทุกข์ แต่จะมีวันที่สุขก็ต้องมาอย่างแน่นอนเช่นกัน” น.ส.แพทองธารกล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend