POLITICS

‘ชัยธวัช‘ ยันพิจารณาขับ ’วุฒิพงศ์’ ไม่เกี่ยวปมทุจริต แยกสอบชัดเจน

‘เบญจา‘ ไม่ออกเสียง ลั่นไม่ละเว้นหากตรวจสอบพบผิดแต่ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงคุกคามทางเพศเปลี่ยนไป ยินดี ’กมธ.อุตสาหกรรม’ ตรวจสอบวอนลากไส้ให้ถึงตัวการ

วันนี้ (7 พ.ย. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ให้ข้อมูลพาดพิงการทำงานของพรรคก้าวไกลว่าการที่ถูกขับออกจากสมาชิกพรรค เป็นเพราะมีทีมงานของพรรคในจังหวัดปราจีนบุรีรับผลประโยชน์จากบริษัทบ่อขยะ และทีมงานคนนั้นเป็นผู้ช่วย สส.ทำงานใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรคท่านหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้ถูกขับออกจากสมาชิกพรรคนั้น

นายชัยธวัช ยืนยันว่า ข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหานี้แต่อย่างใด เพราะข้อมูลที่นายวุฒิพงศ์ได้ร้องเรียนขณะแก้ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ได้นำเรื่องนี้มาโต้แย้งว่าการร้องเรียนมีแรงจูงใจจากผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งเมื่อผู้บริหารพรรครับทราบข้อมูลนี้ พรรคไม่นิ่งนอนใจ ได้กำชับให้คณะกรรมการวินัยพิจารณาแยกจากกัน เพราะข้อเท็จจริงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ และต่อให้คำกล่าวหาเป็นจริงว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงเรื่องการคุกคามทางเพศเปลี่ยนไป และกำชับให้พิจารณาข้อกล่าวหาเรื่องเรียกรับผลประโยชน์ต่อจากการพิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศทันที

นายชัยธวัช ระบุว่า ขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาบวชอยู่ หากลาสิกขาแล้วจะมีการเรียกมาสอบข้อเท็จจริงต่อไป และยืนยันว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหามีความใกล้ชิดกับกรรมการบริหารพรรคนั้น กรรมการบริหารพรรคนดังกล่าวคือ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ไม่มีส่วนในการโหวตในขั้นตอนคณะกรรมการวินัย และงดออกเสียงในที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย เพราะทราบดีว่าตนถูกกล่าวหาว่ามี Conflict of Interest (แรงจูงในจากการขัดผลประโยชน์) ในเรื่องนี้ แต่กรรมการบริหารพรรคท่านอื่นก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ในเรื่องนี้อยู่ดี

นายชัยธวัช ยืนยันว่า น.ส.เบญจา ไม่ได้มีส่วนในการร้องเรียนเรื่องนี้ และการแต่งตั้งบุคคลที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ช่วย สส.ของ น.ส.เบญจา ไม่ได้เกิดจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคล แต่เป็นไปตามการนำเสนอชื่อของพรรคให้แต่งตั้งเพราะเป็นคณะทำงานในจังหวัดปราจีนบุรีที่ทำงานกับพรรคมาอย่างแข็งขัน และจากนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน น.ส.เบญจา ได้นำชื่อบุคคลดังกล่าวออกจากการเป็นผู้ช่วย สส.แล้ว

หลังจากนี้ หากในกระบวนการสอบสวนมีข้อมูลที่เชื่อมโยงว่ามีความเกี่ยวข้องกับนางสาวเบญจา และมีความผิด พรรคก็จะดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับอย่างไม่มีข้อยกเว้น โดยโทษสูงสุดคือการขับออกจากสมาชิกพรรค โดยในขณะนี้ข้อเท็จจริงที่นายวุฒิพงศ์ส่งให้พรรค กล่าวหาว่าบุคคลที่เป็นทีมพรรค จ.ปราจีนบุรี มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่ารับผลประโยชน์จากบ่อขยะ ยังไม่มีอะไรเกี่ยงข้องกับ น.ส.เบญจา เลย แต่พยายามเชื่อมโยงว่าเป็นแรงจูงใจที่ขับออกจากพรรค ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน การคุกคามทางเพศและเรื่องพฤติกรรมรับผลประโยชน์ เป็นคนละเรื่องกัน ต้องพิจารณาแยก

“หากบุคคลที่ถูกกล่าวหา สมมติว่ามีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จริง มันก็ไม่ได้ทำให้พฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศหายไป ถูกไหม“ นายชัยธวัช กล่าวย้ำ

ส่วนที่ทางประธานกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ออกมาบอกว่าพร้อมตรวจสอบการเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทบ่อขยะดังกล่าวนั้น นายชัยธวัช ตอบทันทีว่า “ก็ดีเลยครับ” อยากให้จริงจัง เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ในการหากินกับบ่อขยะ รวมถึงขยะในอุตสาหกรรม มลพิษต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมด ตนยินดีด้วยซ้ำ หากทาง กมธ.มาช่วยสอบสวน แล้วคนของพรรคก้าวไกลผิดจริง ตนยิ่งขอบคุณ และอย่าหยุดแค่นั้น ต้องสอบไปดูว่านักการเมืองบ้านใหญ่ มีใครที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพวกนี้ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ชาวปราจีนบุรีเขต 2 เลือกคนของพรรคก้าวไกล

“ผมต้องยอมรับว่าคุณแจ้ เป็น สส.คนหนึ่ง ที่ทำงานเรื่องมลพิษอย่างแข็งขัน แต่เราต้องแยกออกจากกัน แม้คุณแจ้จะต่อสู้อย่างเต็มที่เรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับชาวบ้าน มันไม่ได้ไปลบล้างอีกเรื่องหนึ่ง แม้กระทำผิดจะต้องไม่ได้รับโทษ ผมมองว่าต้องแยกออกจากกัน” นายชัยธวัช กล่าว

Related Posts

Send this to a friend