POLITICS

เปิดตัวทีมคนรุ่นใหม่ กลุ่ม “รวมไทย ยูไนเต็ด” บริหารด้วยหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ

รวม “ประชาชนมืออาชีพในหลากหลายสาขา” ที่อยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เปิดตัวผู้ร่วมก่อตั้ง 4 คน ได้แก่ วรนัยน์ วาณิชกะ วินท์ สุธีรชัย ณิชนัจทน์ สุดลาภา และ อภิรัต ศิรินาวิน ตั้งเป้าเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการสร้างเส้นทางใหม่ให้ประเทศไทย เน้นบริหารงานด้วยหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพของพลเมืองในประเทศ โดยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ภายใต้แนวคิด “รัฐบาลไม่ได้ปกครอง รัฐบาลบริหาร รัฐบาลไม่ใช่นาย รัฐบาลคือประชาชน”

วรนัยน์ วาณิชกะ นักการเมืองรุ่นใหม่ กล่าวว่า “รวมไทย ยูไนเต็ด คือการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่อยากขับเคลื่อนประเทศไทยให้พัฒนา และ ก้าวไปข้างหน้า ประชาชนจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงทางการเงิน เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และได้รับสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียม คนไทยทุกคนต้องสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างถ้วนหน้า ไม่ใช่จำกัดอยู่เฉพาะคนในเมืองที่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% ของคนไทยทั้งประเทศ อีกทั้งการที่ทเราจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เราต้องการผู้นำซึ่งมีคุณสมบัติในการนำพาประเทศให้พัฒนาไปอย่างสร้าง- สรรค์ อย่าง Digital government เพราะปัจจัยที่กำหนดว่าประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้า หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลังนั้น ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้นำเป็นสำคัญ หากผู้นำเป็นอย่างไรประเทศ ก็เป็นอย่างนั้น

รวมไทย ยูไนเต็ด เสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ประชาชน รวมไทย ยูไนเต็ด คือประชาชนทุกคนที่มีอุดมการณ์มุ่งหมายเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ผ่านการสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เปิดเสรีด้านการศึกษา ไม่ตีกรอบความคิด และเคารพในสิทธิมนุษยชน ด้วยความตั้งใจบริหารอย่างมืออาชีพ มีธรรมาภิบาล และปราศจากทุจริตคอรัปชัน ภายใต้วิสัยทัศน์ในการ จุดประกายธรรมาภิบาล สร้างเส้นทางใหม่ให้กับประเทศไทย”

ด้าน วินท์ สุธีรชัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า “เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ และเราเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว กว่า 30 ปี ที่ประเทศไทยติดอยู่กับคำว่าประเทศที่กำลังพัฒนา นั่นทำให้เราเสียเวลามามากพอแล้ว ฉะนั้นผมมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้ ภายใต้แนวทางในระยะเร่งด่วน อย่างการปรับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้เข้าถึงระบบการชำระเงินแบบเครดิตได้ การอัดฉีดเครดิตให้ผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อแก้ปัยหาสภาพคล่อง และแนวทางระยะยาว อย่างการสนับสนุนกลยุทธ์การควบรวมกิจการแนวดิ่ง (Vertical Integration) เช่นธุรกิจที่เกี่ยวกับระบบขนส่งระบบสื่อสาร หรือระบบสาธารณสุข และแนวทางอื่นๆอีกมากมายที่สามารถทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว  และต้องเริ่มทันที เพราะเราไม่สามารถจะรอได้อีกแล้ว”

เซเรน่า ณิชนัจทน์ สุดลาภา นักกิจกรรมคนข้ามเพศ กล่าวว่า “ความเท่าเทียมไม่ได้มีผลแค่มิติทางสังคม แต่รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศ สภาพเศรษฐกิจที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้ไม่ได้เอื้อสำหรับทุกคน แต่มันเอื้อให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มนึง ซึ่งเศรษฐกิจที่ดีควรเป็น “เศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน” ที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเราทุกคนจริงๆ ไม่ว่าคุณจะตัวเล็กแค่ไหน ทุนเท่าไหร่ เพศอะไร เราต้องมีระบบเศรษฐกิจที่รองรับการเติบโตให้กับคนไทยทุกคนจริงๆ เพื่อให้เราหลุดกับดักจากประเทศกำลังพัฒนา ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ ทั้งนี้โดยอาศัยนโยบายแบบบูรณาการทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม, สังคมและความเท่าเทียม รวมถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ด้วย

อภิรัต ศิรินาวิน อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า “ประชาชาวไทยทุกคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสำคัญสูงสุดอันละเมิดมิได้ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบันกลับถูกออกแบบมาเพื่อจำกัดสิทธิ และทำลายระบบพรรคการเมืองให้ต้องอยู่อย่างยากลำบาก อีกทั้งยังเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชน ไม่ให้ได้สิทธิตามระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จึงถึงเวลาแล้วที่สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกเปลี่ยนแปลง”

Related Posts

Send this to a friend