‘เศรษฐา’ ย้ำรัฐบาลของประชาชน ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค ควบคู่กับกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (7 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจและสมาคมสตรีจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ, สมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย, สมาคมนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม, สมาคมนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-เพชรบุรี, สมาคมไหหลำ, มูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิพัฒนาวิชาชีพสตรี, กลุ่มแอมเฟรม, ศาลแรงงานภาค 3, กงสุลกิตติมศักดิ์ สหรัฐเม็กซิโก ประจำจังหวัดภูเก็ต เขตกงสุล ภูเก็ต พังงา กระบี่, ซอนต้า 8, บริษัท สมพลเบดดิ้ง แอนด์ แมทเทรส อินดัสตรี จำกัด, ชมรมเพลินไทย สมัยนิยม และนางเยาวเรศ ชินวัตร เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอให้นายกรัฐมนตรีส่งเสริมบทบาทสตรี และหาทางออกปัญหาที่เกิดจากสถาบันครอบครัวที่ไม่ได้รับการแก้ไข
รวมทั้งขอให้ฟื้นกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นกองทุนส่งเสริมอาชีพของสตรีที่เกิดขึ้นช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการส่งเสริมบทบาทสตรีอย่างเท่าเทียม จะส่งผลดีในภาพรวมของประเทศต่อไป พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถของนายกรัฐมนตรี จะนำพาความแข็งแกร่งทุกด้าน นำพาประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤต ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการทำงานเพื่อประเทศชาติให้สำเร็จลุล่วงต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอกราบขอบพระคุณสำหรับคำอวยพรที่ยิ่งใหญ่ สำหรับภารกิจที่หนักหนาขนาดนี้ ดีใจที่ในภาคของสตรีเข้าใจว่ารัฐบาลของประชาชนที่เข้ามาบริหารจัดการในขณะนี้ เราพิจารณาเรื่องความเท่าเทียมและสิทธิของสตรีด้วย ขณะนี้เราไม่ได้ดูเพียงเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีปัญหาเรื่องความเท่าเทียม มีเรื่องสิทธิของสตรี ขณะนี้ประเทศประสบปัญหาเยอะ ไม่ใช่เพียงเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ความเท่าเทียม ถือว่าเราต้องเยียวยาจิตใจของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน รัฐบาลของเรา รัฐบาลของประชาชน มีความตั้งใจจริงที่จะนำมาซึ่งความเสมอภาคและความเท่าเทียม ซึ่งภาคของสตรีเป็นภาคหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
“การที่ภาคสตรีมาพบวันนี้ จะช่วยลดการมองว่ารัฐบาลมุ่งเพียงเรื่องเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เรื่องของสังคมและความเท่าเทียมถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ดีใจที่สตรีหลายภาคส่วนมาพบวันนี้ โดยเฉพาะมีกงสุลกิตติมศักดิ์สหรัฐเม็กซิโก ประจำจังหวัดภูเก็ตมาด้วย ซึ่งรัฐบาลมีแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดนั้น จึงขอความร่วมมือให้ท่านตอบสนองแนวนโยบายที่เราจะส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่สำคัญที่สุด” นายเศรษฐา กล่าว