CRIME

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งเร่งล่าตัวลูกน้องกำนันดังยิงตำรวจ บอก ผู้กำกับควรพิจารณาตัวเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งเร่งล่าตัวลูกน้องกำนันดัง ยิงตำรวจทางหลวง ดับ 1 เจ็บ 1 ยอมรับมีตำรวจเข้าไปในบ้านกำนันอีกหลายนาย ตำหนิตำรวจในพื้นที่ให้ พิจารณาตัวเอง ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหิมเกริมแบบนี้

วันนี้ (7 ก.ย. 66) เมื่อเวลา 09:39 น. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่ลูกน้องกำนันดังในจังหวัดนครปฐม ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และเสียชีวิต 1 นาย เมื่อคืนวันที่ 6 กันนายน 2566 โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่เหิมเกริมที่ยิงเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นลูกน้องใครก็ต้องจับให้ได้

สำหรับตัวกำนันจะมีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้มีอิทธิพลหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบ วันนี้ดูเพียงว่าการก่อเหตุไปเชื่อมโยงถึงใครบ้าง หากพบว่าเชื่อมโยงกับใครก็จะต้องดำเนินการจับกุมทั้งหมด โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ และเตรียมออกหมายจับทั้งหมด ก่อนจะมีการขยายผลหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และไปเกี่ยวข้องกับใครบ้าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวงสนทนาที่เกิดเหตุ มีการคุยเจรจาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายลูกน้องของกำนันนกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการสนทนาในเรื่องใดบ้าง โดยช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 และกองปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดี พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้ การทำนอกกฎหมายไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน เว้นแต่ว่ามีการต่อสู้ขัดขืน ตำรวจก็จะดำเนินการตามยุทธวิธีเพื่อป้องกันตนเอง

ส่วนประเด็นที่กลุ่มนายตำรวจเข้าไปในบ้านกำนันด้วยสาเหตุใด จะต้องสอบปากคำหาสาเหตุที่แท้จริง โดยต้องรอให้ได้ตัวผู้ต้องหามาก่อน พร้อมยอมรับว่ามีตำรวจมากกว่า 2 นาย ที่เข้าไปในบ้านกำนัน เบื้องต้นทราบว่าเป็นตำรวจระดับรองผู้กำกับ และสารวัตร ส่วนจะมีชั้นยศใดบ้างอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ ระบุอีกว่า ขณะนี้คนร้ายทั้งสองคนคือกำนันและมือปืน ยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ไม่ได้ไปไหนไกล หากตำรวจดำเนินการล่าช้าอาจทำให้คนร้ายหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่า เหตุใดตำรวจในพื้นที่จึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขนาดที่คนร้ายสามารถฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ดังนั้น นายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ต้องทบทวนและพิจารณาตัวเอง

“เรื่องนี้จะต้องถามย้อนกลับไปว่าตำรวจในพื้นที่ ผู้กำกับ และผู้การฯ ในพื้นที่อยู่กันยังไงถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหิมเกริมแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ผู้กำกับจะต้องไปพิจารณาตัวเองว่าตัวเองบังคับบัญชายังไงถึงได้กล้าเหิมเกริม กล้าพกปืนยิงในงานแบบนี้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

สำหรับประวัติของมือปืนลูกน้องกำนันนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้นทราบว่ามีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนหน้านี้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร เรื่องซุ้มมือปืนต่าง ๆ ในจังหวัดนครปฐมจะต้องไม่มีแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้กำกับและตำรวจในท้องที่ว่าทราบข้อมูลหรือไม่ หากผู้กำกับในพื้นที่และผู้การจังหวัดไม่เข้มแข็ง เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ อีกทั้งการที่คนร้ายกล้ายิงตำรวจ จะยิ่งทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องตำหนิการทำงานของตำรวจในพื้นที่ว่าการบังคับใช้กฎหมายล้มเหลวหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend