POLITICS

‘ณัฐวุฒิ’ เผย กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้ข้อสรุประยะเวลานิรโทษกรรม​ครอบคลุมปี 48 จนกฎหมายบังคับใช้

จ่อเพิ่มในบัญชีแนบท้ายเป็น 25 ฐานความผิด ยัน​ ไม่ลืมคนเสื้อแดงปี 53 ถูกดำเนินคดีจนศาลยกฟ้อง​ แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ย้ำ​ พร้อมทำออกมาให้ดีที่สุด

วันนี้ (7 ส.ค.​ 68) กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมด้วยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งมี​ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นตัวแทนรับ

นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ กล่าวว่า ร่าง​ พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับ อาจไม่ครอบคลุมเพียงพอในการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จึงมายื่นข้อเสนอถึงประธานคณะกรรมาธิการฯ 4 เรื่อง ดังนี้

1.​ ระยะเวลาการนิรโทษกรรม เสนอให้ครอบคลุม พ.ศ.2548-2568 หรือจนกว่าจะมีการบังคับใช้​ พ.ร.บ.

2.​ ในส่วนฐานความผิด เมื่อพิจารณาจากบัญชีแนบท้ายร่าง​ พ.ร.บ.ที่มีเพียง 12 ข้อ หรือ 20 ฐานความผิด ซึ่งอาจตกหล่นบางฐานความผิด

3.​ คดีเยาวชน ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา มีเยาวชนถูกดำเนินคดี 286 ราย ซึ่งเยาวชนควรได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วยในครั้งนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ควรรวมการนิรโทษกรรมให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี​ ในทุกฐานความผิด

4.​ เสนอให้ควรมีองค์ประกอบของภาคการเมือง​ และภาคประชาชน​เข้าไปด้วย เพราะร่าง​ พ.ร.บ. องค์ประกอบหลักเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออดีตศาล อัยการ เป็นหลัก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่พิจารณาว่า คดีไหนถูกหรือผิด หรือเป็นการเมืองไม่ใช่การเมือง ควรมีคนที่ถูกดำเนินคดี และคนที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอดเข้าไปเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการด้วย

ส่วนระยะเวลาที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา หากกำหนดว่า คณะกรรมการนี้จะยุบภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ควรเปิดช่องให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาคดี เผื่อมีคดีไหนตกหล่น และนอกเหนือจากที่คณะกรรมการจะพิจารณาคดีนิรโทษกรรมแล้ว ยังมีอีกประเด็นที่ควรพูดถึงคือการเยียวยา

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า 2 ประเด็นแรก เป็นเรื่องที่เห็นตรงกันอยู่แล้ว คณะกรรมาธิการฯ มีความเห็นร่วมกัน​ เป็นมติของที่ประชุมไปแล้ว กรอบเวลาเริ่มต้นปี 48 จนถึงวันที่กฎหมายประกาศใช้ ส่วนฐานความผิดในบัญชีแนบท้ายยังไม่ครอบคลุม และตกหล่นเป็นจำนวนมาก สัปดาห์ที่แล้วกรรมาธิการฯ จึงมีมติเสียงข้างมากว่า​ จะบรรจุบัญชีแนบท้าย​ พ.ร.บ.ให้ระบุทั้งความผิด โดยหลักคิดตรงกันว่า จะต้องเพิ่มจาก 12 ฐานความผิดในขณะนี้ จากการอ้างอิงรายงานผลการศึกษาที่มีการระบุไว้ 25 ฐานความผิด​ และไม่ปิดกั้นหากมีการเพิ่มฐานความผิดอื่น

ส่วนเรื่องเยาวชนและองค์ประกอบของคณะกรรมการ​ เนื่องจากยังไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่จะนำไปหารือ และรายงานให้ทราบต่อไป การทำงานของคณะกรรมการฯ มีเจตนาร่วมกันว่า จะผลักดันสังคมไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง โดยใช้การนิรโทษกรรมคดีความอันเกิดขึ้นจากการชุมนุมทางการเมืองหรือเกี่ยวเนื่องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วง 20 ปีที่ผ่านมา​ ตั้งใจว่าจะแล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการฯ โดยเร็ว จากที่วางกรอบไว้ 2 เดือน

“เราจะทำให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เราจะทำให้มันออกมาเป็นเครื่องมือของการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยให้ได้มากที่สุด แม้ว่าขณะนี้รูปลักษณ์ของความขัดแย้งทางความคิดยังคงชัดเจน และลึกซึ้งอยู่ก็ตาม แต่ไม่มีสังคมไหนไม่ขัดแย้งทางความคิด เราต้องทำให้สังคมนี้พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้คนแต่ละกลุ่มได้ตั้งหลักตั้งต้น และเดินหน้าชีวิตในฐานะผู้บริสุทธิ์ต่อไป” นายณัฐวุฒิ​ กล่ว

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกลุ่มคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำ เป็นกองกำลังติดอาวุธในการชุมนุมปี 53 ว่าคนกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดี ถูกขังในเรือนจำ และสู้คดีจนศาลยกฟ้อง เป็นผู้บริสุทธิ์จากกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ได้รับการเยียวยา ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ไปนั่งคุยมา และได้ไปตามข้อมูลที่กรมคุ้มครองสิทธิ์​ กระทรวงยุติธรรม และจะนำข้อมูลมาผลักดัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในคณะกรรมาธิการชุดนี้

Related Posts

Send this to a friend