‘ภูมิธรรม’ เตรียมพบจุฬาราชมนตรี คุยดับไฟใต้

สั่งเข้มหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น ดูแลกลุ่มเปราะบาง ส่วนข้อเสนอใช้ พ.ร.บ. ต่อต้านการก่อการร้ายต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ
วันนี้ (7 พ.ค. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในวันนี้จะเดินทางไปพบกับ นายอุดม บุญชม จุฬาราชมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ขณะที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ภาคใต้ในวันนี้เช่นกัน เพื่อพบปะ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ยืนยันจุดยืนของรัฐบาล และสำรวจสภาพปัญหาความต้องการในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลกลับมาประกอบการพิจารณาแก้ไข
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพูดคุยกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง โดยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาได้เชิญ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาหารือแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน บางประเด็นไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เข้าใจความห่วงใยของประชาชน และขอเวลาในการดำเนินการ เพราะหลายเรื่องที่วางแผนไว้ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่มีความคืบหน้าไปพอสมควร เช่น การพบปะกับผู้อำนวยความสะดวกจากประเทศมาเลเซีย ที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ได้มอบหมาย และกำลังประสานงานไปยังอีกหลายภาคส่วน ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางและเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับข้อเสนอให้ใช้ พ.ร.บ.ต่อต้านการก่อการร้ายนั้น นายภูมิธรรมระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายที่มีอยู่สามารถดูแลสถานการณ์ได้ แต่หากจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และต้องมีกลไกทางกฎหมายที่สร้างความมั่นใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
นายภูมิธรรมยังได้ชี้แจงความหมายของ “การทำงานเชิงรุก” ว่า ไม่ได้หมายถึงการออกไปสู้รบหรือเข่นฆ่าผู้ก่อเหตุ แต่เป็นการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราด่านต่างๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายอาวุธ รวมถึงจัดกำลังเข้าไปดูแลคุ้มครองทั้งหน่วยทหาร ประชาชนกลุ่มเปราะบางทั้งชาวพุทธและมุสลิม โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่ตั้งปฏิบัติงานมากขึ้น ไม่หย่อนยาน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นชอบในแนวทางนี้ และได้มีการพูดคุยเน้นย้ำกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยสิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือต้องลดการใช้ความรุนแรงให้ได้มากที่สุด