POLITICS

‘วันชัย’ ชม นโยบายรัฐบาล “สั้น กระชับ พร้อมปรับตามสถานการณ์”

แนะเร่งสร้างผลงานก่อนฝ่ายค้านเอาไปกิน ทำนาย “เศรษฐามา ราหูต้องหนี” มองก้าวไกลไม่ใช่ความขัดแย้งแค่เห็นต่างระหว่างวัย ถ้าผลงานดีก็เป็นเพียง “เสียงไกลๆ” เท่านั้น

วันนี้ (6 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ให้ความเห็นถึงรูปเล่มนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภา โดยระบุว่า มีความแตกต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้วมาก มีความสั้น กระชับ ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดปลีกย่อย แต่ในภาคผนวกมีการอ้างถึงยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนเนื้อหาตั้งใจให้ตรงประเด็น เปิดกว้าง ไม่ผูกมัดเกินไป บางเรื่องรัฐบาลคงจะมาตอบข้อซักถามในที่ประชุม เช่น เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้บอกว่าจะต้องมี สสร. เห็นร่วมกัน แต่จะหารือกับทุกภาคส่วนให้มีความเห็นร่วมกัน

นายวันชัย ยังมองว่า รัฐบาลเน้นการตอบข้อซักถามและผูกมัดในที่ประชุม แสดงออกถึงความพยายามปรองดอง ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย แล้วรวบรวมเป็นนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้บอกว่านโยบายไหนเป็นของพรรคใด

“ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันสบายๆ พร้อมที่จะยืดหยุ่น ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ ไม่ถึงขนาดประกาศไว้ว่า เป๊ะๆๆ ต้องทำเรื่องนั้นเรื่องนี้หรือไม่ทำ” นายวันชัย กล่าว

สำหรับกรอบเวลาในการอภิปราย นายวันชัยเชื่อว่าจะใช้เวลา 2 วัน แต่คงไม่ถึงกับเลิกตี 3-4 โดยจะพยายามให้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และเท่าที่ดู มี สว.แสดงความจำนงจะอภิปรายกันเป็นจำนวนมาก ทุกคนตื่นตัว เพราะอยู่มาแล้ว 4 ปี มีข้อมูล ความพร้อม ความมั่นใจ และเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว จึงอยากจะแสดงฝีมือ สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เครื่องอาจยังไม่ร้อน แต่ตอนนี้ทราบว่า หลายคนเตรียมข้อมูลและลับฝีปากกันหลายวัน

นายวันชัย กล่าวว่า รัฐบาลต้องอยู่ให้ได้อย่างมีเสถียรภาพ เพราะหากทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกกันตอนนี้ก็เท่ากับแพ้ รัฐบาลต้องเร่งทำนโยบายและสร้างผลงานให้เร็วที่สุด ให้ประชาชนยอมรับและลบข้อครหา ต้องต่อสู้กับฝ่ายค้านให้ได้

“เพราะถ้ารัฐบาลอยู่แปบๆ หรือยุบสภาฯเร็ว ฝ่ายค้านก็จะไปกิน ถามว่าเขารู้ไหม ผมว่าเขารู้” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย ยังยืนยันว่า ทั้งในทางการเมืองและโหราศาสตร์จะเกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดที่ประชาชนคาดไม่ถึง หรือที่ตนเรียกว่าเป็นความศิวิไลย์ ในช่วงปลายปีนี้จะเห็นสิ่งใหม่ๆ ใหญ่ที่คิดไม่ถึง บ้านเมืองจะเกิดความรัก ความปรองดองอย่างรวดเร็ว

“ใครที่ยังติดหล่มกับเรื่องเก่าๆ ยังดูหนังเรื่องแผลเก่าอยู่ ต้องเลิกดูได้แล้ว ตอนนี้ต้องดูเรื่องมนต์รักสีชมพูได้แล้ว มันเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่จริงๆ เป็นเรื่องที่สังคมไทยคาดไม่ถึง…ใครที่ติดอยู่กับหนังเรื่องเดิมๆ บทเดิมๆ ถือว่าตกยุคตกสมัย กาลเวลาจะฆ่ากินไป ต้องเตรียมดูภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่อำนวยการสร้างโดยหลายฝ่าย ก่อให้เกิดความหวังใหม่ของสังคมไทย” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย กล่าวว่า ตนพอจะรู้เรื่องข้อมูลของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่บ้าง จึงขอให้มองไปข้างหน้า “นายกฯเศรษฐามา ดวงดาวยังต้องย้ายหนี ราหูยังต้องไป” ไม่อย่างนั้น บ้านเมืองจะมาถึงวันนี้ไม่ได้ พร้อมย้ำว่ายุคของ คสช. หมดไปตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.แล้ว ใครที่ยังพูดเรื่องปฏิวัติรัฐประหาร ก็ถือว่าตกยุคเหมือนกัน และถ้ามีรัฐประหารได้จริงก็แปลว่าเกิดจากรัฐบาลนี้เองที่แตกแยก โกงกิน ไม่มีผลงานไม่ต้องปฏิวัติ เดี๋ยวประชาชนก็ไล่เอง

“ถือว่าไม่ใช่เทหมดหน้าตักอย่างที่เขาพูด แต่ทุ่มทั้งชีวิตจิตใจ ทั้งอนาคตเลยทีเดียว ผมเองก็เป็นส่วนแสดงบทเล็กๆ อาจเป็นตัวประกอบเล็กๆ” นายวันชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้อำนวยการสร้างอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจใช่หรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณก็ถามเกินไป ก่อนจะหัวเราะและกล่าวต่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาคอวสาน และจบอย่างสวยงามตามท้องเรื่อง ทุกคนที่สู้กันมา 20 ปี นึกไม่ถึงว่าจะจบอย่างนี้ ตนก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน จึงเป็นที่ยืนยันว่าพระสยามเทวาธิราชมีอยู่จริง นี่คือประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมาถึงวันนี้ และเดินต่อไป

ขณะที่บทบาทของพรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไร นายวันชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องความเห็นต่างระหว่างวัย พรรคก้าวไกลไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่กับคนอายุเท่ากันแล้วทะเลาะกัน เช่น นปช. กปปส. ถือเป็นความแตกแยก พรรคก้าวไกลจึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความแตกแยก แต่เป็นความเห็นต่างระหว่างวัย ซึ่งยังจำเป็นต้องมี และถ้ารัฐบาลมีผลงานดีเป็นที่ยอมรับ เสียงของพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นเสียงไกลๆ ไม่ได้กระหึ่มกึกก้องเหมือนตอนหาเสียง

ส่วนประเด็นการแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา จะซ้ำรอยกับสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการทุจริตหรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า สาหัสสากันกันมาเท่าไหร่แล้ว มีคนล้มตาย ติดคุก ต้องหนีไปจากประเทศ ถ้ายังไม่สำนึก ไม่เอาบทเรียนในอดีตมาใช้ ก็แปลว่าไม่ต้องผุดต้องเกิดกันแล้ว จึงเชื่อว่า ความสาหัสสากันต่างๆคงจบไปแล้ว และคงไม่มีใครเอาเรื่องราวในอดีตมาทำให้เกิดปัญหา

“เจ็บทั้งตัว แตกแยกทั้งแผ่นดิน สร้างรอยร้าวลึกให้กับสังคม ไม่ควรจะมีอีกแล้ว และผมเชื่อว่าเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. จะเป็นปฐมบทของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ และปัญหาดังกล่าวจะจบไปจากสังคมไทย” นายวันชัย กล่าว

Related Posts

Send this to a friend