POLITICS

‘มงคลกิตติ์’ ลงพื้นที่ตรวจสอบผับเมาท์เท่นบีจี้ ผู้ว่าฯ ผับใหญ่ แต่ไม่รู้ เข้าข่าย 157 หรือไม่

ส.ส.มงคลกิตติ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบผับเมาท์เท่น บี ชี้ต้องเอาผิดหน่วยงานระดับจังหวัด ไม่ใช่แค่ตำรวจในพื้นที่ จี้ ผู้ว่าฯชลบุรี ผับใหญ่ แต่ไม่รู้ เข้าข่าย 157 หรือไม่ ขอ รมว.มหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

วันนี้ (6 ส.ค. 65) เวลา 11:50 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะกรรมาธิการการทหาร และรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และสามาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบผับชื่อดัง Mountain B อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้ผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 37คน

นาย มงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะมาลงพื้นที่ตรวจสอบ ตนทราบข้อมูลทั้งหมดของผับแห่งนี้ ว่าอยู่ในพื้นที่ส่วนของเทศบาลสัตหีบ แต่ก็อยู่ในพื้นที่ของ อบต. พลูตาหลวงด้วย แต่เวลาที่จะขออนุญาตนายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ เกี่ยวกับเรื่อง พรบ.อาคารจากกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากผับแห่งนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 522 ตารางเมตร เป็นอาคารแบบ ค. ต้องมีพื้นที่เข้าออกไม่น้อยกว่า 4จุดด้วยกัน ซึ่งตนยังไม่แน่ใจว่าที่นี่มีกี่จุดกันแน่

รวมถึงที่นี้ก็มีเรื่องการขออนุญาตที่ไม่ถูกต้อง แต่พื้นที่ตรงจุดนี้เป็นพื้นที่เฉพาะ เพราะอำเภอสัตหีบเป็นพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งเป็นพื้นที่ของทหารเรือ การจะขออนุญาตทำพื้นที่ ไม่ใช่ว่าจะต้องขอที่เทศบาลเมืองสัตหีบเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องขอผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบด้วย ซึ่งท่านจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างแน่นอน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ความจริงแล้วเรื่องความผิดไม่ใช่แค่ 5เสือ สภ.พลูตาหลวงที่ถูกย้าย การจะเปิดผับใหญ่ขนาดนี้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีจะต้องรับทราบอยู่แล้ว เพราะอยู่มาถึง 6ปี ซึ่งจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยรวมถึงผู้การจังหวัดที่สั่งย้ายลูกน้อง แต่กลับบอกไม่ไม่รู้ไม่เห็น ตนมองว่าไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่

ในเรื่องของการเยียวยา ตนทราบว่าในส่วนของผู้เสียชีวิตมีประกันอยู่เพียง 4 รายจากผู้เสียชีวิต 15ราย และผู้บาดเจ็บมีประกัน 14 คนจากผู้บาดเจ็บทั้งหมด 37คน ฉะนั้นส่วนราชการจะต้องแบ่งเป็น2 ส่วนด้วยกันในการรับผิดชอบ โดยอาจจะต้องรับผิดชอบผู้เสียชีวิตรายละ 3ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บอาจะต้องเยียวยา 1.5ล้าน ถึง 2ล้านบาท แต่งบประมาณส่วนนี้ราชการจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งมีอยู่2ส่วน คือกระทรวงมหาดไทยหรือก็คือจังหวัดชลบุรี ส่วนที่2 ก็คือเทศบาลเมืองสัตหีบ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ต้องร่วมกันช่วยเหลือเยียวยา

นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า หลังจากนี้ เรื่องของการกระทำความผิดนั้น ต้องผิดตั้งแต่ระดับจังหวัด ฝ่ายปกครอง ผู้ว่า ฯ นายอำเภอ และตำรวจในระดับจังหวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเรื่องของการเปิดผับ มติครม. หลังจากที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ที่ภูเก็ต ได้มีการขยายเวลาจากเที่ยงคืนเป็น ตี2 แต่ที่นี้เปิดถึงตี 4 นั้นจริงหรือไม่ รวมถึงเรื่องของการปล่อยให้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20ปี เข้าใช้บริการอีกด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป

ส่วนเรื่องระบบการจ่ายส่วยนั้นจะต้องมีการตรวจสอบ และหารือกับสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงการสร้างอาคารนั้นผิดต่อ พรบ.อาคาร ซึ่งก็ต้องตรวจสอบว่าเมื่อไม่ถูกแต่กลับมีการปล่อยให้เปิดหรือไม่ ซึ่งหากปล่อยให้มีการเปิดก็อาจจะส่งผลให้เข้าข่ายค่าย ม.157 และขอให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของไทย ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

เรื่อง: กิตติธัช วิทยาเดชขจร
ภาพ: พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์

Related Posts

Send this to a friend