POLITICS

ศาลให้ประกันตัว ‘หมอลำแบงค์’ คนเดียว คดีชุมนุม 19 กันยาฯ ‘สมยศ-ไผ่’ ศาลยกคำร้องประกัน ชี้มีพฤติการณ์เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดี จากกรณีขอถอนทนาย

วันนี้ (9 เม.ย. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังศาลอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวคดีหมายเลขดำ อ 287/64 ที่นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ จำเลยที่ 3 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จำเลยที่ 7 ผู้ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันชุมนุม 19 กันยาทวงคืนอำนาจและปักหมุดที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 63 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112,116 และความผิดอื่นๆ เสร็จสิ้นลง และจากกรณีการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำราษฎรคนอื่นๆ อีกครั้งนั้น

ในเวลา 15.50 น. ศาลอาญาอ่านคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวกรวม 22 คน ตามที่ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยชั่วคราว นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม จำเลยที่ 3 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 7 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64

โดยศาลอาญาได้ไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์จากคำแถลงและการไต่สวนตามคำร้องของนายปติวัฒน์ ประกอบกับคำรับรองของผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 3 จะไม่ไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นได้อีก จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 3 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจทำให้เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล รวมทั้งต้องมาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด

ส่วนนายสมยศและนายจตุภัทร์ ศาลระบุว่า แม้จะให้ถ้อยคำในชั้นไต่สวนขอปล่อยชั่วคราวเช่นเดียวกับนายปติวัฒน์ แต่กลับปรากฏข้อจจริงในภายหลัง ว่าเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 64 ศาลนัดสอบคำให้การตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 287/2564 ซึ่งทั้ง 2 คน ไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีเพียงนายปติวัฒน์ และทนายความเท่านั้นที่ลงลายมือชื่อ

นอกจากนี้ ทางทนายนายสมยศและนายจตุภัทร์ ได้นำรายงานกระบวนพิจารณาไปเขียนข้อความเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ระบุว่า “ทนายความไม่ขอลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา เนื่องจากไม่ยอมรับกระบวนพิจารณา” กับมีพฤติการณ์จะไม่ยอมไปกำหนดวันนัดสืบพยานที่ศูนย์นัดความ และยื่นคำร้องขอถอนทนายความ ทำให้การกำหนดวันนัดสืบพยานเป็นด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นอุปสรรคและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีในศาล จึงแสดงให้เห็นว่าข้อความและคำแถลงของจำเลยทั้ง 2 คน ว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่แถลงไว้ต่อศาลนั้น ไม่น่าเชื่อถือว่าสามารถปฏิบัติตามที่แถลงไว้ต่อศาลได้ ในชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงมีคำสั่งยกคำร้อง

Related Posts

Send this to a friend