POLITICS

ก.เกษตรไทย – ญี่ปุ่น ตกลงขยายความร่วมมือ ผ่านแพลตฟอร์ม FKII

ก.เกษตรไทย – ญี่ปุ่น ตกลงขยายความร่วมมือ ผ่านแพลตฟอร์ม FKII เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ

วันนี้ (6 ก.ค. 65) สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว รายงานว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ วิวิธเกยูรวงศ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ประจำกรุงโตเกียว และคณะทำงาน ร่วมหารือกับ นายคูนิอากิ คาวามูระ( Mr. Kuniaki Kawamura )ประธานสภาความร่วมมือภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และภาครัฐ (The Council of Industry-Academia-Government Collaboration) ซึ่งมีแพลตฟอร์มเพื่อการวิจัยและพัฒนาในการเป็นแหล่งองค์ความรู้ การบูรณาการและนวัตกรรม (Filed for Knowledge, Integration & Innovation หรือ FKII) FKII อยู่ภายใต้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น (MAFF)

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญอันดับ 2 ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกไปญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 11.35 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก ขณะที่ญี่ปุ่น สามารถผลิตอาหารได้ 37% ของความต้องการในประเทศ ความร่วมมือระหว่าง 2 กระทรวงและภาคีภาคส่วนต่างๆ จึงถือว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยเติมเต็มนโยบายของกันและกัน

นายอลงกรณ์ ยังแสดงความชื่นชม FKII ที่สามารถสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ในหลากหลายด้าน อาทิ เกษตรอัจฉริยะ อาหารสุขภาพ เกษตรกรรมยั่งยืน ฯลฯ โดยเฉพาะงานด้านเกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable agriculture) ที่ FKII มีแพลตฟอร์มเพื่อการวิจัยและพัฒนาถึง 72 กลุ่ม จึงแสดงความประสงค์จะสร้างความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาร่วมกันในหลายประเด็น เช่น อาหารจากพืช (Plant-based Food) อาหารจากแมลง (edible insect) ผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายสำหรับเป็นอาหารคน และอาหารสัตว์ ยาและเครื่องสำอาง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ได้จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) และศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) มีการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว เพื่อพัฒนาการผลิตและการแปรรูป สู่เกษตรมูลค่าสูง

นายอลงกรณ์ ยังให้ความสนใจระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้า (Cold Chain logistics) เพื่อเพิ่มความสามารถในการขนส่งสินค้าเกษตรและอาหาร เพิ่มมูลค่าทางการค้าและลดความสูญเสียอาหารได้ด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยมีสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว เป็นผู้ประสานความร่วมมือ

ทั้งนี้ นายคูนิอากิ คาวามูระ ประธานสภาความร่วมมือฯ และนายโอคูมะ ราเคชิผู้อำนวยการ FKII ตอบตกลงและมีความยินดีที่จะร่วมมือในการวิจัยและพัฒนา แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันกับฝ่ายไทย โดยจะได้ประสานงานผ่านสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว

ปัจจุบัน FKII มีสมาชิกกว่า 4,200 ราย จากบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหาร ผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีก สถาบันการเงิน สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น รวมถึงสถานทูตต่างๆกว่า 68 แห่งในประเทศ และยังมีแพลตฟอร์มเพื่องานวิจัยและพัฒนาอีก 171 กลุ่ม

Related Posts

Send this to a friend