สนธิญา’ ร้องนายกฯ สอบ ‘พีระพันธุ์’ ปมถือหุ้น 4 บริษัท จี้หากผิดจริงต้องลาออกจากตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ค. 68) เวลา 13.20 น. นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยื่นหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการถือหุ้นและการเป็นกรรมการบริหารใน 4 บริษัท ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยนายสนธิญาอ้างว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จึงขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยมี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือแทน
ในวันเดียวกัน ว่าที่ร้อยเอกไกรภพ นครชัยกุล อดีตหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้สั่งปลดนายพีระพันธุ์ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และขอให้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นกัน โดยว่าที่ร้อยเอกไกรภพอ้างถึงข้อมูลกรณีการแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งใช้งบประมาณของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อันเป็นงบประมาณจากรัฐ แต่กลับมีการติดสติกเกอร์รูปและชื่อของนายพีระพันธุ์ ซึ่งอาจถือเป็นการใช้ทรัพย์สินของหลวงเพื่อประโยชน์ส่วนตน อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงและอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยเอกไกรภพยังได้กล่าวถึงประเด็นการถือครองหุ้นและการเป็นกรรมการบริษัทของนายพีระพันธุ์ด้วย
สำหรับรายละเอียดข้อกล่าวหาเรื่องการถือหุ้นนั้น นายสนธิญาระบุว่า จากเอกสารทะเบียนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฏว่าปัจจุบันนายพีระพันธุ์ยังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเอกชนอีก 4 บริษัท อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทหนึ่ง ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นพฤติการณ์ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้สถานะความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงและขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี
นายสนธิญาอ้างว่า การถือหุ้นเกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ รัฐมนตรีจะต้องแจ้งต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และโอนหุ้นให้แก่นิติบุคคลที่บริหารจัดการ แต่นายพีระพันธุ์อาจยังไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว การเป็นรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม การแจ้งข้อมูลในแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ไม่ถูกต้อง อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 ซึ่งอาจเป็นการปกปิดการกระทำของตนเอง และส่งผลให้นายกรัฐมนตรีอาจไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติอย่างรอบคอบ
ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสนธิญา ให้สัมภาษณ์ว่า จุดประสงค์หลักคือต้องการให้นางสาวแพทองธารตรวจสอบว่านายพีระพันธุ์มีชื่อเป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริหารใน 4 บริษัทดังกล่าวจริงหรือไม่ หากพบว่ามีชื่ออยู่จริง ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง หากนายกรัฐมนตรีเพิกเฉย อาจถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากนายพีระพันธุ์เป็นรองนายกรัฐมนตรีภายใต้การกำกับดูแล จึงขอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ผู้ใดไปตรวจสอบกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากพบว่ามีชื่อนายพีระพันธุ์จริง เรื่องก็ควรจะยุติลง ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบถึงการบริหารงานของคณะรัฐมนตรี
นายสนธิญา กล่าวต่อไปว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตรวจสอบ จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และจากนั้นจะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการถือหุ้นของนายพีระพันธุ์ เพื่อความกระจ่างชัดต่อสาธารณชน เนื่องจากทั้งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีต่างเป็นบุคคลสาธารณะและเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ส่วนตัวยังคงเคารพนายพีระพันธุ์ และเคยทำงานร่วมกันมาก่อน มีความศรัทธาและเชื่อมั่น จึงต้องการให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ หากการเลือกตั้งครั้งหน้านายพีระพันธุ์ได้รับความไว้วางใจ ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างสมบูรณ์ แต่หากถือหุ้นอยู่จริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย การร้องเรียนครั้งนี้เพื่อให้เกิดความถูกต้องและไม่เกิดการลักลั่นในการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี นายสนธิญาเห็นว่าสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคงไม่ได้หละหลวม แต่อาจเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีแต่ละคนย่อมทราบข้อกฎหมายดีอยู่แล้ว จึงอาจไม่ได้ตรวจสอบซ้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนอาจเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งถือเป็นข้อผิดพลาดเฉพาะบุคคล
นายสนธิญาย้ำว่า ไม่มีเรื่องขัดเคืองส่วนตัวกับนายพีระพันธุ์ แต่ดำเนินการตามเอกสารร้องเรียนที่ได้รับ เช่นเดียวกับที่เคยร้องเรียนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร, นางสาวแพทองธาร หรืออดีต สส.พรรคก้าวไกล 44 คน ปัจจุบันไม่มีสังกัดพรรคการเมือง และทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ หากนายพีระพันธุ์ผิดจริงและลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงหัวหน้าพรรค ตนจะยุติการดำเนินการทุกอย่าง
นายสนธิญากล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีว่าที่ร้อยเอกไกรภพด้วยว่า การมายื่นหนังสือของอดีตหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ เป็นไปเพื่อทวงคืนพรรครวมไทยสร้างชาติกลับมา เนื่องจากเห็นว่าพรรคมีความวุ่นวายและอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยร่วมกันก่อตั้งมาด้วยความยากลำบาก