POLITICS

‘สนธิรัตน์’ หนุนรัฐเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา เชื่อ ช่วยลดภาระค่าไฟประชาชน

‘สนธิรัตน์’ หนุนรัฐเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา เชื่อ ช่วยลดภาระค่าไฟประชาชน

วันนี้ (6 ม.ค. 66) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสท์เฟซบุ๊ก แนะนำให้รัฐบาลเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน โดยระบุว่า ตนเห็นด้วยกับการเร่งเจรจา เพราะหากได้ข้อสรุปเร็ว ก็สามารถช่วยลดภาระประชาชนด้านราคาค่าไฟฟ้า และช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวให้กับประเทศ

นายสนธิรัตน์ ยังระบุว่า ปี 2562 ช่วงที่ตนบริหารกระทรวงพลังงาน ได้นำเรื่องนี้มาพูดคุยโดยประเมินเบื้องต้นว่า ในพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตารางกิโลเมตร น่าจะมีปริมาณสำรองปิโตรเลียมจำนวนมาก จึงพยายามผลักดันให้เกิดการร่วมพัฒนาในพื้นที่ เพื่อทดแทนก๊าซที่กำลังจะหมดในแหล่งบงกชและเอราวัณ

ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ ได้เสนอแนวทางเพื่อเป็นกรอบเจรจาใน 3 ประเด็น คือ 1. ควรยึดโมเดลการพัฒนาพื้นที่แบบโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย JDA ที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน 2. การเจรจาเรื่องนี้ควรยึดประโยชน์ของประชาชนคนในชาติ มากกว่าผลประโยชน์ด้านธุรกิจของบริษัทต่างๆ ประโยชน์ที่ควรจะได้คือ คนไทยได้ใช้พลังงานในราคาที่ถูกและมีความมั่นคง และ 3. การพัฒนาพื้นที่และการเดินหน้าเรื่องนี้ ต้องมีการคิดใหม่เรื่องการคำนวณโครงสร้างต้นทุนราคาในการผลิตและจำหน่ายพลังงานที่จะได้ เพื่อให้คนไทยได้ใช้พลังงานราคาถูก

“ปัจจุบันแนวโน้มค่าไฟก็จะยิ่งสูงขึ้น เพราะเราต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากต่างประเทศ ซึ่งก็มีความผันผวน ยิ่งจำนวนก๊าซในอ่าวไทยที่เราผลิตได้เองในปัจจุบันก็ไม่ได้ตามเป้า หากสามารถเจรจาให้มีข้อยุติได้โดยเร็วเพื่อให้เกิดการเริ่มสำรวจและพัฒนา แม้ว่าจะใช้เวลาอีกหลายปีถึงจะสามารถผลิตปิโตรเลียมขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ก็เป็นทางออกในการเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับประเทศ ทดแทนก๊าซจากพื้นที่ผลิตในอ่าวไทยที่จะลดปริมาณลงเรื่อยๆ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend