POLITICS

‘อนุทิน’ คุมเข้มอาวุธปืน งดออกใบอนุญาตนำเข้า-ผู้ค้ารายใหม่

‘อนุทิน’ เข้มควบคุมอาวุธปืน งดออกใบอนุญาตนำเข้า-ผู้ค้ารายใหม่ แบลงค์กัน-บีบีกันต้องทำบันทึก สั่งห้ามคนทั่วไปพก เว้นแต่เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนเด็กไม่บรรลุนิติภาวะห้ามเข้าสนามยิงปืน

วันนี้ (5 ต.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงผลการประชุมพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมการครอบครอง การพกพา และการใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุน สิ่งเทียมปืน โดยระบุว่าอธิบดีกรมการปกครองได้เสนอมาตรการระยะสั้น ประกอบด้วย

1.ให้นายทะเบียนอาวุธปืนทั่วประเทศ (นายอำเภอในต่างจังหวัด อธิบดีกรมการปกครองใน กทม.) งดการออกใบอนุญาตให้สั่ง นำเข้า หรือค้า ซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนทุกชนิด (สำหรับผู้รับใบอนุญาตรายเดิมที่จะสั่งนำเข้าเพิ่มเติม) และไม่อนุญาตให้รายใหม่ขออนุญาตเป็นผู้ค้า สั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนเพิ่มอีก

2.ขอให้ผู้ครอบครองแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน ที่อาจจะดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ ให้นำแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนของตนที่ครอบครองอยู่ ไปแสดงและทำบันทึกต่อ นายทะเบียนอาวุธปืนตามภูมิลำเนาซึ่งตนมีทะเบียนบ้านอยู่ และบีบีกัน ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้อย่างเข้มงวด

3.ให้กรมศุลกากรตรวจสอบการนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบลงค์กัน

4.ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งกำกับดูแลสนามยิงปืนที่ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมกีฬาทั่วประเทศให้มีการกวดขัน ตรวจสอบ ทั่วประเทศ ดังนี้ ห้ามผู้มีอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าสนามยิงปืน ยกเว้นได้รับการอนุญาตตาม ระเบียบการกีฬาแห่งประเทศไทย เช่น นักกีฬายิงปืนทีมชาติ อาวุธปืนที่ใช้ต้องมีทะเบียนถูกต้อง และตรงตัวกับผู้มาใช้บริการ ห้ามนำกระสุนปืนออกภายนอกสนามเด็ดขาด สำหรับกรณีสนามยิงปืนในการกำกับดูแลของส่วนราชการ ขอให้ดำเนินการกวดขัน ตรวจสอบ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน

5.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ งดออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

6.กระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบายดำเนินโครงการอาวุธปืนสวัสดิการให้ประชาชนทั่วไป ยกเว้นแต่เจ้าพนักงานของรัฐที่จำเป็นต้อง มีได้คนละ 1 กระบอก ห้ามโอน

7.ให้นายทะเบียนงดการออกใบอนุญาตสั่งนำเข้าอาวุธปืนของร้านค้าอาวุธปืนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

8.ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี/ บช.สอท.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมปราบปราม และปิดเว็บไซต์ เพจออนไลน์ซื้อขายอาวุธปืนเถื่อน และสิ่งเทียมอาวุธปืนดัดแปลงเป็นอาวุธปืน โดยขอให้รายงานผลการปฏิบัติให้กระทรวงมหาดไทยทราบทุก 15 วัน

ส่วนมาตรการระยะยาว จะมีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490

1.ต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์ที่รับรองเรื่องสุขภาพจิต ภาวะทางจิตใจ ที่ผู้ขออนุญาตซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอ

2.ความหมาย บทนิยาม ของคำว่า “สิ่งเทียมอาวุธปีน” ไม่ให้หมายความรวมถึงแบลงค์กัน บีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ง่าย

3.กำหนดให้ผู้ที่จะซื้อสิ่งเทียมอาวุธปีนที่สามารถตัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้ ต้องยื่นคำขอต่อนายทะเบียนอาวุธปืน

4.ผู้ครอบครองอาวุธปืนทั่วประเทศทั้งรายเดิมที่มีอยู่แล้ว และรายใหม่ ที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นจะต้องนำอาวุธปืน มายิงทดสอบเก็บข้อมูลหัวกระสุนทุกกระบอก ทุกราย

5.ให้ใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน (ป.4) มีอายุของใบอนุญาต ซึ่งผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้วจะต้องนำอาวุธปืนมารายงานตัว กับนายทะเบียน ในทุก 5 หรือ 10 ปี เพื่อพิจารณาต่ออายุใบอนุญาต เช่นเดียวกับใบขับขี่รถยนต์

นายอนุทิน กล่าวว่าเราพยายามใช้กฎหมายที่กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลอยู่ในการบังคับใช้อย่างเต็มที่ ส่วนที่อยู่นอกเหนือกระทรวงมหาดไทยและจะต้องเป็นข้อเสนอ ตนเองจะนำเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ที่ให้นโยบายมาอย่างชัดเจน เช่น ข้อที่ไม่ปลอดภัย หากมีการเปลี่ยนจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมาย จะต้องนำเสนอนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและดำเนินการต่อไป ผ่านระบบรัฐบาลและระบบสภาผู้แทนราษฎร ช่วยกันให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ส่วนกระบวนการต่อจากนี้อธิบดีกรมการปกครองจะกลับไปร่างคำสั่งการ โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่เสร็จสิ้น

ส่วนปืนที่มีการครอบครองอยู่ขณะนี้ ทั้งปืนเถื่อนและถูกกฎหมายจะมีการกวาดล้างอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่าส่วนที่มีการลงทะเบียนไว้ก็ทราบอยู่แล้วว่าใครเป็นเจ้าของ ส่วนบีบีกันขอให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องกับทางกรมการปกครอง อย่างน้อยหากมีการขึ้นทะเบียนก็จะรู้ว่าเป็นปืนของใคร หากเปลี่ยนมือหรือไม่ได้มาแจ้งความ เจ้าของก็ต้องรับผิดชอบในอาวุธปืนนั้น ๆ หากขึ้นทะเบียนแล้วมีการตรวจค้นถูกจับก็จะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ทั้งนี้กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐลาออก หรือว่าเกษียณอายุราชการ เขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบในอาวุธปืนนั้นเพราะเขาซื้อมาแล้วก็เป็นของเขา แต่ว่าโอนไม่ได้หากเสียชีวิตก็ต้องตกเป็นของทายาท แต่นำไปใช้ในขอบเขตที่นอกเหนือกฎหมายไม่ได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่าคนที่พกปืนไปมาทุกวันนี้ผิดกฎหมายทั้งนั้น ประชาชนทั่วไปในประเทศนี้ไม่สามารถที่จะแต่งตัวเสร็จแล้วนำปืนพกหนีบแล้วไปไหนมาไหนได้ตามสะดวก โดยอ้างว่าเอาไว้ป้องกันตัว เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ใบอนุญาตหรือใบพกพาไม่ได้อนุญาตให้ทำเช่นนี้ คนก่อเหตุที่มีเรื่องมีราวทั้งหลายคือพวกที่ผิดกฎหมายทั้งนั้น ปืนไม่ใช่ของตนเอง ส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินคดี

Related Posts

Send this to a friend