POLITICS

ก.แรงงาน พร้อมช่วยเหลือแรงงานเก็บผลไม้ป่าที่ถูกเอาเปรียบในฟินแลนด์

ยัน มีมาตรการจัดส่งที่มีมาตรฐาน เตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทผู้ประสานงานหากมีความผิดฐานค้ามนุษย์ หลังถูกตำรวจฟินแลนด์ดำเนินคดีและมีแรงงานที่ได้รับความเสียหาย

วันนี้ (5 ต.ค. 65) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกระทรวงแรงงานและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับการประสานงานเป็นการภายในจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีแรงงานไทย 17 คน ร้องเรียนไปยังตำรวจฟินแลนด์ ว่ามีการบังคับใช้แรงงาน มีการให้กู้เงินจากไทย ที่พักไม่ดี และได้ค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้น ในวันนี้ท่านบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน จึงได้มอบหมายให้ตนเองและคณะ มารับแรงงานไทยกลุ่มนี้ที่ได้เดินทางกลับมากับผู้ประสานเนื่องจากหมดฤดูกาลเก็บผลไม้ โดยจะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 16.25 น.ที่ ด้วยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 143 ซึ่งแรงงานที่ร้องเรียนมีทั้งหมด 17 คน จากจำนวนแรงงานที่เดินทางกลับมาทั้งหมด 209 คน

อธิบดีกรมการจัดหางานได้สอบถามแรงงานที่ได้รับความเสียหาย พบว่าเป็นแรงงานที่เพิ่งไปทำงานปีแรกกับบริษัทผู้ประสานงานไทยที่ไปเก็บผลไม้ป่าให้กับบริษัท Polarica ที่ล่าสุดตำรวจฟินแลนด์ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทชาวฟินแลนด์ และคนไทยที่เป็นบริษัทผู้ประสานงาน รวม 2 ราย ฐานค้ามนุษย์

โดยตัวแทนแรงงาน นายธีรศักดิ์ ภักดีนพรัตน์ เปิดเผยว่า หลังจากไปทำงานเก็บผลไม้ป่าเกือบสามเดือน มีเงินรายได้กลับมาไม่ถึง 200 ยูโร หรือ 7,000 กว่าบาท จากที่คิดว่าจะได้กว่า 100,000 บาท ตามที่มีการโฆษณาชักจูงกันไว้ และที่พัก อาหาร รวมถึงสวัสดิการต่างๆไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน รวมถึงเงินค่าเดินทางก็มีการคิดดอกเบี้ยถึง 15 % เหมือนต้องไปทำงานใช้หนี้ ทำให้ไม่มีรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ จึงได้พากันไปร้องเรียนหน่วยงานที่ฟินแลนด์ จนตำรววจได้เข้าดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทที่เป็นคนฟินแลดน์และคนไทย ฐานค้ามนุษย์

“พวกผมจึงขอร้องเรียนให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบบริษัทนี้ ป้องกันไม่ให้มีแรงงานถูกหลอกลวงไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าหลายคนที่ไปอาจจะได้รายได้สูงจริง แต่พวกผม ไม่ได้อะไรเลย บางคนติดลบอีกต่างหาก จึงอยากเตือนคนที่อยากไปอย่างหลงโฆษณาชวนเชื่อ” แรงงานที่ได้รับความเสียหาย กล่าว

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้นั้น ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยทุกคนที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากแต่ละคนเป็นเสาหลักของครอบครัวและแต่ละปีมีรายได้ส่งกลับประเทศเป็นจำนวนมาก ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงได้กำชับให้กรมการจัดหางาน ซึ่งมีภารกิจในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ให้ดูแลแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศเป็นอย่างดี พร้อมทั้งรับเรื่องร้องทุกข์ และอำนวยความสะดวกให้แก่คนงานที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศกรณีต้องการความช่วยเหลือด้วย

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของกรมการจัดหางาน ในฤดูกาลปี 2564 มีแรงงานไทยเดินทางไปทำงานในประเทศฟินแลนด์ จำนวน 3,201 คน มีรายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่าย ประมาณ 110,541 บาท/คน คิดเป็นรายได้รวมก่อนหักค่าใช้จ่าย จำนวน 703,832,250 บาท และเป็นรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย 325,874,549 บาท มีการร้องเรียนเกี่ยวกับค่าจ้าง หรือสภาพการจ้างการทำงาน จำนวน 70 ราย คิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์จากจากผู้ที่เดินทางไปทำงานในฟินแลนด์ทั้งหมด ซึ่งกรมการจัดหางานได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จทุกรายแล้ว สำหรับฤดูกาลปี 2565 แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในประเทศฟินแลนด์ จำนวน 3,966 คน เดินทางกลับมาแล้ว 1,666 คน ซึ่งพบว่ายังไม่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน

กระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางาน มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มความคุ้มครองให้แก่แรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ ทั้งในด้านรายได้และสวัสดิการต่าง ๆ ที่แรงงานไทยจะได้รับ โดยมีความพยายามผลักดันให้ประเทศฟินแลนด์ให้ความคุ้มครองแรงงานไทยแบบ Seasonal Worker เนื่องจากในปัจจุบันแรงงานไทยยังคงเดินทางไปทำงานด้วยวีซ่าประเภทท่องเที่ยว ล่าสุด ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้นำคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมแรงงานที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ และสวีเดน ระหว่างวันที่ 3 – 13 กันยายน 2565 โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะ นางตูล่า ฮาไตเนน (Mrs.Tuula Haatainen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจ้างงานแห่งกระทรวงเศรษฐกิจและการจ้างงานสาธารณรัฐฟินแลนด์ เพื่อหารือประเด็นการผลักดันให้การเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ของแรงงานไทยถูกต้องตามหลักมาตรฐานการจ้างงานสากล ผลักดันให้แรงงานไทยได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของทั้งสองประเทศ รวมทั้งผลักดันให้นายจ้างทั้งในประเทศไทยและฟินแลนด์จัดสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ อันพึงมีพึงได้ให้แก่แรงงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์

อย่างไรก็ดี กระทรวงแรงงานได้จัดทำมาตรการเดินทางไปทำงานในประเทศฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2022 โดยดูแลแรงงานตั้งแต่ก่อนเดินทาง ขณะทำงานอยู่ในต่างประเทศ และเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทย ดังนี้ 1)มาตรการก่อนการเดินทางไปทำงาน กรมการจัดหางาน ได้ดำเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการในการให้ความคุ้มครองแรงงานไทย โดยจัดทำมาตรการเดินทางไปทำงานในประเทศฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2022 ให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่า/บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทย ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการ เช่น จัดทำประกันการเดินทาง และต้องประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้คนงานไทยไม่ต่ำกว่า 30,240 บาท โดยวางหลักประกันการเดินทาง (Bank Guarantee) ณ ธนาคาร ธกส. นอกจากนั้น ยังกำหนดมาตรการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น การจัดเตรียมที่พักไม่เกิน 6 คน/ห้อง ห้องน้ำสำหรับแต่ละห้องพัก รถสำหรับเดินทางไปเก็บผลไม้คันละไม่เกิน 6 คน เป็นต้น 2) มาตรการคุ้มครองคนงานในระหว่างทำงานอยู่ในต่างประเทศ กรมการจัดหางานได้ประสานความร่วมมือประสานสถานทูต บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าในฟินแลนด์ และบริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทย ในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล แรงงานไทยในระหว่างทำงานอยู่ในประเทศฟินแลนด์ และ 3) มาตรการหลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทย มีการหารือร่วมกันระหว่าง กรมการจัดหางาน ตัวแทนผู้รับซื้อ ผู้ประสานงาน และผู้แทนลูกจ้างเพื่อทราบปัญหา อุปสรรค ที่เกิดขึ้น โดยนำไปพิจารณาแนวทางในการดำเนินการในฤดูกาลถัดไป

นอกจากนี้ กรมการจัดหางานยังได้ดำเนินการสั่งการไปยังสำนักงานจัดหางานจังหวัด/สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เพื่อสำรวจสภาพความเป็นอยู่ รายได้ และความพึงพอใจในกระบวนการเดินทางไปทำงาน รวมถึงรับคำร้อง ในกรณีที่แรงงานได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่ประกันรายได้ไว้ เพื่อดำเนินการหักจากหลักประกันต่อไป

ซึ่งจากข้อมูลของกรมการจัดหางานที่ได้สำรวจข้อมูลความพึงพอใจในการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์จากผู้ประสานงานฝ่ายไทยที่จัดส่งแรงงานไทยไป 300 คน ปรากฏว่า แรงงานแต่ละคนมีรายได้เฉลี่ยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วคงเหลือ จำนวน 104,000 บาทต่อคน รายได้ต่ำสุดสำหรับแรงงานที่ไปทำงานครั้งแรก จำนวน 44,000 บาท และรายได้สูงสุดจำนวน 280,000 บาท ซึ่งแรงงานไทยมีความพึงพอใจและประสงค์ที่จะเดินทางไปทำงานในปีถัดไปอีกด้วย

“กรมการจัดหางานขอยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในทุกมิติ เพื่อให้การดูแลพี่น้องแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในตางประเทศ ให้ได้รับค่าจ้าง สิทธิ สวัสดิการ อย่างครบถ้วน ตามนโยบายของท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สำหรับกรณีที่มีแรงงานร้องเรียนนั้น กรมการจัดหางาน จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแรงงานที่เดินทางกลับมาในวันนี้เพื่อจะรวบรวมข้อมูลหาแนวทางช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป”นายไพโรจน์ กล่าวท้ายสุด

ขณะที่แรงงานได้ยื่นเรื่องต่อ นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงให้การช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบต่อไป

ส่วนแรงงานที่ได้รับความเสียหาย 17 คน ทาง บก.ปคม.ได้นำตัวไปสอบสวนในฐานะผู้เสียหาย จากคดีค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นในประเทศฟินแลนด์ แต่มีเจ้าของและมีที่ตั้งในไทย หากพบเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์จะมีการดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่อธิบดีกรมการจัดหางาน ยืนยันว่า หากพบว่า บริษัท Polarica และบริษัท ประสานงานในไทยมีความผิดฐานค้ามนุษย์ ก็จะทำการขึ้นบัญชีดำ และแจ้งเตือนแรงงานที่จะไปเก็บผลไม้ป่าต้องศึกษาให้ดี

ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ทางโทรศัพท์หมายเลข 02-245-0978 และ 02-245-9430 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

Related Posts

Send this to a friend