POLITICS

‘เศรษฐา’ ชวนถอดหัวโขน จับมือทุกขั้วทุกสีเสื้อ เลือก ‘เพื่อไทย’

“ผมพร้อมแล้ว” แคนดิเดต ‘เศรษฐา’ ชวนถอดหัวโขน จับมือทุกขั้วทุกสีเสื้อ เลือก ‘เพื่อไทย’ ให้นายกฯ คนที่ 30 ส่งต่อสังคมที่ดีกว่าให้ลูกหลาน

วันนี้ (5 เม.ย. 66) นางสาวเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ONE TEAM FOR ALL THAIS : หนึ่งทีม เพื่อไทยทุกคน’ เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน จากพรรคเพื่อไทย ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในชีวิตการเมืองของผม รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ไว้วางใจเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดต เพื่อร่วมชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ที่มีภารกิจสำคัญในการพลิกฟื้นประเทศไทยซบเซามานานมานาน

พร้อมเล่าย้อนถึงสาเหตุที่ผลักดันเรื่องความเท่าเทียมว่า มีเพื่อนหลายกลุ่มที่ได้ไปเที่ยว และกลุ่มที่เป็นรูปของนักการภารโรงไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยว ทำให้สงสัยว่าเพื่อนที่กอดคอกัน แต่กลับมีโอกาสไม่เท่ากัน เรื่องนี้ถือเป็นความไม่เท่าเทียมที่จำได้ในชีวิต ทำให้ตลอดเวลา 30 ปีในภาคธุรกิจ พยายามผลักดันเรื่องฐานะ ความเท่าเทียมในสังคม แต่ความหมายเท่าเทียมในจิตใจมันฝังอย่างรากลึก รัฐมีหน้าที่ให้ความสำคัญ และผลักดันปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งเรื่องกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และสิทธิเสรีภาพ ไม่ควรให้ประชาชนต้องมาต่อสู้ด้วยตัวเอง เรื่องเหล่านี้เป็นตัวจุดประกายที่ทำให้ตัดสินใจจะเข้ามาแก้ไขในบทบาทใหม่และวันนี้ได้มาถึงแล้ว

ซึ่งในช่วงที่นายเศรษฐาพูดประโยคนี้เอง ฉากจอด้านหลังได้ขึ้นข้อความว่า ”ผมพร้อมแล้ว”

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ผมขออาสาและขอโอกาสจากคนไทยทุกคนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ไปจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ผม เพื่อผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ทำความตั้งใจนี้ให้เป็นจริง ถึงแม้ว่าส่วนตัวจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ จนเห็นภาพสุดท้ายว่าคนไทยเท่าเทียมกันทุกประการ แต่จะทำทุกทางเพื่อให้ลูกหลานมีสังคมและชีวิตที่ดีกว่า

“วันนี้ผมขอพูดถึงสิ่งที่ผมจะทำในฐานะผู้นำของประเทศไทยคนถัดไป ความตั้งใจข้อแรก จะยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งประเทศ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ด้วยนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ขอเน้นย้ำคำว่า ทั่วถึง เพราะที่ผ่านมาการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างผลประโยชน์ให้กับคนไม่กี่กลุ่มในประเทศ ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำฐานะของคนในครัวเรือน และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจภายใต้นโยบายของพรรคเพื่อไทย

นายเศรษฐา ประกาศจำนวนวงเงินในนโยบายเทคโนโลยีกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) จำนวน 10,000 บาท ในมือถือทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยสามารถใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามบัตรประชาชน และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทำให้คนที่อยู่ในชุมชนขายของได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะได้การตอบแทนกลับมาในรูปแบบของภาษี

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึง นโยบายที่จะขับเคลื่อนทั้งการหาตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้าในไทย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หรือสุราพื้นบ้าน ให้สินค้าจากไทยเข้าถึงตลาดทั่วโลก ที่จะนำรายได้มหาศาลมาสู่ประชาชน โดยหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะมีการยกระดับการเจรจาทางการทูตเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย ไม่ใช่แค่ด้านเศรษฐกิจแต่ยังรวมถึงสิทธิ์ฟรีวีซ่าของพาสปอร์ตไทยในอีกหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการเจรจาการทูตว่า นอกจากความอิสระของพาสปอร์ตไทยแล้ว ในอีกมุมหนึ่งยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้จ่าย เพิ่มเงินหมุนเวียนในประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและเอกชนในต่างประเทศก็สำคัญ เพราะเพื่อไทยจะไปเจรจากับบริษัทต่างประเทศให้เลือกลงทุนที่ประเทศไทย เพิ่มตำแหน่งงาน เพิ่มรายได้ให้คนไทย

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงเรื่อง Soft Power ที่หลากหลายของคนไทย ต้องมีการผลักดันจากภาครัฐและสร้างพื้นที่รองรับการแสดง Soft Power เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ต, งานศิลปิน, เทศกาลหนัง และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เมืองไทยกลายเป็นหมุดหมายที่ทั่วโลกอยากเข้ามาจัดการแสดงที่ประเทศไทย

รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทัดเทียมระดับโลก โดยประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศ ทางราง และทางเรือ ให้สามารถรองรับผู้คนและสินค้าให้ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายสนามบิน ขยายโครงข่ายรถไฟให้เชื่อมเหนือจรดใต้ และเพิ่มความสามารถของท่าเรือเชื่อมต่อ โดยที่พรรคเพื่อไทยจะยังไม่ละเลยความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ที่ต้องบริหารจัดการให้เติบโตไปพร้อมกับประเทศได้ อย่างการนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารพื้นที่ชลประทานอย่างเป็นระบบภายใต้การประสานงานของหน่วยงานรัฐที่ทำงานโดยมีประชาชนเป็นหัวใจหลัก และอากาศสะอาดที่เป็นพื้นฐานการดำรงชีวิต ประชาชนไม่ควรต้องร้องขอจากรัฐ โดยเฉพาะปัญหา PM2.5 ที่เราเผชิญอยู่ รัฐบาลที่ดีต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นตอทันที

ช่วงท้ายนายเศรษฐา กล่าวว่า ความตั้งใจทั้งหมดที่พูดมาทำได้จริง ผ่านนโยบายของพรรคเพื่อไทย จะยกระดับครัวเรือนลดช่องว่างทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยมีที่ยืนบนเวทีโลกอีกครั้ง ความตั้งใจทั้งหมดต้องอาศัยประชาชนทั้งหมดช่วยกัน เป็นกำลังส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนความตั้งใจนี้ให้เป็นจริง ในวันนี้ขอให้ทุกคนในที่นี้และอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนภาคกลางคนเหนือ คนใต้ คนอีสาน จะเป็นคนรวยคนด้อยโอกาส เป็นชาวนา ชาวไร่ นักธุรกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า คนอนุรักษ์นิยม คนเสรีนิยม คนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง คนเสื้อหลากสี พวกเราคือคนไทยเหมือนกัน

“ขอให้ทุกคนถอดหัวโขนที่สวมอยู่ ทุกคนล้วนเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้องเป็นคนในครอบครัว และสำคัญที่สุด เป็นประชาชนคนไทย เป็นคนที่รักและอยากเห็นประเทศไทยเจริญก้าวหน้ากลับมาเป็นผู้นำของภูมิภาคอีกครั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มาสู้กับใครคนใดคนหนึ่ง ศัตรูของผมคือความยากจน ความลำบากของประชาชน ชัยชนะต่อสิ่งเรานั้นคือเป้าหมายที่แท้จริงของผมและพรรคเพื่อไทย ผมอยากทำให้ความหวังของทุกคนเป็นจริง อยากเห็นคนทุกกลุ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน มีที่ยืนในเวทีโลกอย่างภาคภูมิใจ ถ้าทุกคนเชื่อในความหวังนี้ว่าจะเป็นจริงได้ เชื่อในความหวัง เชื่อในความมุ่งมั่นของผมและ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย เลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะอุทิศเวลาทั้งหมดทำหน้าที่รับใช้ประชาชน ทำนโยบายให้เป็นจริง นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศ คืนศักดิ์ศรีคืนความมั่งคั่ง คืนความภาคภูมิใจให้กับคนไทย เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน

Related Posts

Send this to a friend