POLITICS

‘ภูมิธรรม‘ ขอให้ดูความเป็นจริง กรณีข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก. – กรมอุทยานฯ

‘ภูมิธรรม‘ ขอให้ดูความเป็นจริง กรณีข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก. – กรมอุทยานฯ ใช้วันแมพ 1:4,000 เป็นมาตรฐานกลาง

วันนี้ (5 มี.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่าง ส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติ ว่า เรื่องนี้ก็สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อวานนี้ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ซึ่งก็ได้แจกสิทธิทำกินให้กับประชาชนในเขตลุ่มน้ำ ตามกฎระเบียบกฎหมาย ประมาณ 8 แสนกว่าไร่ ใน 50 กว่าจังหวัด

ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นเรื่องเก่าที่ต้องสะสาง เพราะเป็นเรื่องที่มีหน่วยราชการรับผิดชอบหลายหน่วย อีกทั้งมีแผนที่ที่มองไม่ตรงกัน จึงได้แก้ปัญหาในการจัดทำแผนที่ One Map ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยประมาณ 1 – 2 วันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมพูดคุยกัน ซึ่งทุกคนต่างยอมในการที่จะใช้ One Map 1 ต่อ 4,000 ให้เป็นมาตรฐานกลาง

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ต้องแก้ไขปัญหาแบบยืดหยุ่น และต้องดูความเป็นจริง พร้อมยกตัวอย่างว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปดูแหล่งการปลูกกาแฟ ที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยมีชนเผ่าเมี่ยน เป็นผู้มีสิทธิทำกินในพื้นที่ดังกล่าว และอยู่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 200 ปี แต่พอรัฐบาลประกาศเขตไปทับซ้อนพื้นที่พวกเขา ก็เกิดปัญหา ทำให้ คทช. จึงไปคืนสิทธิให้กับพวกเขาในการทำกิน แต่สินทรัพย์ต้องเป็นสินทรัพย์กลาง พร้อมกับมีเงื่อนไขให้พื้นที่ต้องมีการปลูกต้นไม้ เพื่อจะทำให้พวกเขาอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งก็ไม่อยากใช้คำว่าเป็นอาชญากร หรือเป็นคนที่ทำผิดกฎหมาย เพราะพวกเขาก็อยู่มาก่อนหน้านั้น และรัฐบาลประกาศเขตทับซ้อนพื้นที่เขา จึงต้องคืนสิทธิในการทำกินให้กับพวกเขา ยกเว้นกับคนที่มีสิทธิจริง ๆ

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องไปเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด อย่าไปอำนวยประโยชน์ให้ใคร ซึ่งใครที่มีปัญหาก็ต้องจัดการกันตามกฏหมาย ไม่มีสิทธิที่จะไปคุ้มครองได้ จึงอยากให้ดูตามความเป็นจริง

ส่วนปัญหาที่ไม่ยอมรับแผนที่ One Map นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ก็คิดว่าดีขึ้นแล้ว เพราะที่ประชุม คทช. ได้พูดคุยกับหลายส่วนไม่ว่าจะเป็น ส.ป.ก. เขตอุทยาน, เขตอุทยานชายฝั่ง และกรมที่ดิน ซึ่งตนก็พยายามให้ทุกฝ่ายได้คุยกัน ซึ่งขณะนี้ในคณะกรรมการ คทช. ก็มีความเข้าใจกันมากขึ้น และเรื่องนี้จะมีคนผิด หรือไม่มีคนผิด ก็ขึ้นอยู่ที่ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าเราอยากให้มีคนผิด หรืออยากให้มีคนถูก หากข้อเท็จจริงถูก ก็ต้องว่าถูก

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat