POLITICS

‘ศิริกัญญา’ ผิดหวัง ‘เศรษฐา’ แจงงบปี 67 บริหารประเทศแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว

‘ศิริกัญญา’ ผิดหวัง ‘เศรษฐา’ แจงงบปี 67 บริหารประเทศแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว จัดงบสอดไส้ จี้ ‘พล.ต.อ.พัชรวาท’ ตอบแก้วิกฤต PM2.5

วันนี้ (5 ม.ค. 67) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ว่างบประมาณ ปี 67 ไม่ได้สะท้อนการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤต PM2.5 วิกฤตมลพิษรั่วไหล วิกฤตด้านการศึกษา วิกฤตเด็ก วิกฤตสังคมผู้สูงวัย ซึ่งงบประมาณปี 67 ที่ตั้งไว้ไม่ได้สัดส่วนกับความรุนแรงของปัญหาที่กำลังเผชิญ ไม่สะท้อนว่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

ทั้งยังพบการสอดไส้งบประมาณที่ไม่ตรงปก แผนสนับสนุนการสร้างความสามารถทางการแข่งขันก็มีแต่จะงบนำไปใช้หนี้ รัฐบาลจำเป็นจะต้องตอบคำถามในวันสุดท้ายของการอภิปรายงบประมาณ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น อัตราการขยายตัวของ GDP เรื่องงบประมาณไม่ตรงปก นโยบายขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็ยังไม่ได้รับคำตอบจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร จะใช้งบประมาณกลางหรือจะใช้งบคลังยังไม่มีคำตอบ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ชี้แจงว่าที่ผ่านมาลดไป 10,000 – 20,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการนี้อย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดงบประมาณ ปี 67 แปลว่ารัฐบาลจะไม่ต่อสรรพสามิตน้ำมันใช่หรือไม่

ส่วนหนี้มาตรา 28 มีหนี้ซุกอยู่ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะต้องจ่ายไปก่อน เช่น โครงการจำนำข้าว ที่ถูกบิดเบือนว่าฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย วิธีการแบบนี้จะทำให้คำถามที่แท้จริงไม่ได้รับคำตอบ ยืนยันว่าหนี้ตามมาตรา 28 แม้จะไม่ใช่หนี้สาธารณะ แต่ก็เป็นหนี้ที่ประชาชนต้องรับผิดชอบผ่านการจ่ายภาษี จึงขอให้รัฐบาลยอมรับและเปิดเผยข้อมูลว่าหนี้มีเท่าไร และจะต้องจ่ายอีกกี่ปี ซึ่งที่เห็นมีหนี้เกิน 1,000,000 ล้านบาท งบประมาณใช้หนี้ก็ปรับลดลง เพราะจะต้องนำไปใช้โครงการอื่น จึงฝากรัฐบาลว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร เพราะท้ายที่สุดก็จะเป็นภาระในงบประมาณปีต่อไป

ส่วนวิกฤตด้านความมั่นคง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาตอบโต้ สส.พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายเรื่องงบกระทรวงกลาโหม จึงตั้งข้อสังเกตว่าทำไมงบกลาโหมไม่ลดลง หากเจอวิกฤติก็จะตัดลดลง 10 – 20% แต่ปีนี้งบกลาโหมเพิ่มขึ้น 2% นายสุทินกล่าวว่า ถ้าเทียบกับงบทั้งหมดลดลง ไม่ได้ตั้งใจที่จะให้งบประมาณลดลงขนาดนี้ เพราะขอไปมากกว่านี้ แต่สำนักงบประมาณให้เพียงเท่านี้ “สุทินดาวน์น้อยผ่อนนาน”

นายสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ 3 เดือน แต่แผนกองทัพเข้าสู่งบประมาณปีที่ 7 เราจะเห็นว่าควรจะลดงบ ส่วนเรื่องการเกษียณอายุก่อนเวลาราชการ เราได้บันทึกไว้แล้วว่านายสุทิน จะมีโครงการเกษียณอายุก่อนเวลาราชการของกลาโหม ซึ่งต้องดูตามงบประมาณ ปี 2568 เพราะจะต้องใช้งบให้กับผู้ที่เกษียณ

ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ นายสุทิน ยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง ระบุว่าเราผิดสัญญาเรือดำน้ำ แต่ชี้แจงว่าเราไม่เคยผิดสัญญาเรือดำน้ำแม้แต่ครั้งเดียว ช่วงโควิด-19 ที่ไม่ได้จ่ายเรือดำน้ำให้กับจีนเพราะจีนไม่สามารถต่อเรือให้เสร็จสิ้นตามกำหนดได้ แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการผิดสัญญา ในสัญญายังระบุว่า เราควรจะเจรจาฉันมิตรหากมีการผิดสัญญา แต่ดูแล้วท่านจะถอยมากกว่าการเจรจาแบบฉันมิตร และในสัญญายังระบุค่าปรับสำหรับการส่งมอบล่าช้า ตอนนี้ล่าช้าแล้ว 94 วัน เราจึงทวงถามคำตอบว่าจะเดินหน้าอย่างไรกับเรือดำน้ำ

ส่วนวิกฤตสิ่งแวดล้อม PM2.5 ในกรุงเทพฯ มีความรุนแรงตั้งแต่ต้นปี และลามไปที่ภาคเหนือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีได้ฟังการอภิปรายของ นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล เรื่องการวางแผนงบประมาณ นายกรัฐมนตรียอมรับว่ามีแผนชัดเจนในงบ ปี 2567 และจะใช้งบประมาณในการดำเนินนโยบาย แต่การบริหารราชการแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวเรื่อง PM 2.5 นึกว่าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างเหมือนเดิม

นางสาวศิริกัญญา กล่าวถึงการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการชี้แจงเรื่องเศรษฐกิจ คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะตอบมากกว่านี้ แต่กลับให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังตอบเรื่องงบประมาณและเศรษฐกิจเป็นหลัก น่าผิดหวัง ช่วงที่ผ่านมามีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตอบเรื่องงบประมาณเป็นหลัก ตนเองจึงคาดหวังว่าช่วงท้ายในการพิจารณา นายกรัฐมนตรีจะมีบทบาทในการอภิปรายงบประมาณ

การชี้แจงเรื่องงบประมาณ และปัญหาเศรษฐกิจน่าผิดหวังมากที่สุด หรืออาจเป็นอคติของตนเอง แต่ต้องสอบถามท่านอื่นด้วยว่ามีอะไรที่มีปัญหา เราต้องติดตามว่ายังมีรัฐมนตรีท่านใดที่ยังไม่ตอบ โดยเฉพาะเรื่อง PM2.5 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะมาตอบเอง แต่ใครเห็นท่านอยู่ในห้องประชุมหรือไม่

Related Posts

Send this to a friend