‘ภราดร’ ชง สภาฯ เปิดประชุม 8-10 ธ.ค.นี้ พิจารณาแก้ รธน. หวัง โหวตวาระ 3 ก่อนปีใหม่
‘ภราดร’ ชง สภาฯ เปิดประชุม 8-10 ธ.ค.นี้ พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ หวัง โหวตวาระ 3 ก่อนปีใหม่ เล็งสูตรผสมร่าง ‘ภูมิใจไทย – ประชาชน‘ สมัครก่อน ให้สภาจับกลุ่มก่อนพิจารณา เลี่ยงเข้าคูหาโดยตรง หวั่นกระทบคำวินิจฉัยศาล รธน. เผย สว.ห่วงแตะหมวด 1-2 แต่เชื่อจะถอยคนละก้าว
วันนี้ (4 พ.ย. 68) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในชั้นกรรมาธิการ โดยเฉพาะความเห็นต่างเรื่องที่มาของ ส.ส.ร. ว่า คิดว่าไม่มีปัญหา สำหรับเรื่อง ส.ส.ร. วันนี้ทุกคนเห็นตรงกันหมดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี 35 คน ยืนยันว่ามีแน่นอน ส่วนเรื่องสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเพียงนิดเดียว โดยบางส่วนบอกว่ายังต้องมีอยู่บ้าง บางฝ่ายก็บอกว่าไม่ต้องมี เพราะมีกรรมการยกร่างอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเจรจาเหตุเจรจาผล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่มา ส.ส.ร.ที่มีข้อกังวลว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายภราดร กล่าวว่า พูดง่ายๆ ตามความต้องการของพรรคประชาชน คือต้องเข้าคูหาเลือกตั้ง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็มีการพูดคุยมากพอสมควร แม้ยังไม่เป็นมติ แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า เพื่อไม่ให้ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การตีความ จึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าคูหาเลือกตั้ง แต่ให้มาทางอื่น เช่น ตามร่างของพรรคภูมิใจไทย คือใครผู้ที่ประสงค์ที่จะร่างรัฐธรรมนูญ ไปสมัครเข้ามาเอง และให้สมาชิกรัฐสภา 20 คน รวมตัวกันเลือก 1 คน ซึ่งเป็นวิธีตามร่างของพรรคประชาชน ถือเป็นการผสมกันระหว่างร่างของพรรคภูมิใจไทย และร่างของพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีผู้ที่เห็นว่า ยังควรมีคูหาเลือกตั้งอยู่บ้าง แต่ตนเชื่อว่า ท้ายสุดก็จะพูดคุยกันได้
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถทำทันพร้อมกับการทำประชามติเลือกตั้งหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่าขอเวลาก่อนทำประชามติ 75 วัน หรือช่วงกลางเดือนมกราคม 2569 ซึ่ง กมธ. และรัฐสภา ยังพอมีเวลาทำงานได้อยู่ แม้จะไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ แต่ความเห็นส่วนตัว หากจะเปิดสมัยวิสามัญ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เดือนพฤศจิกายน คงเป็นช่วงเดือนธันวาคม ก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ 8-10 ธันวาคม เพื่อลงมติในวาระสาม หลังจากเสร็จสิ้นวาระ 15 วัน เพราะหากไม่เปิดสมัยวิสามัญ จะทำให้การลงมติวาระสาม เป็นช่วงหลังปีใหม่ แต่เราต้องการให้กันลงมติวาระสามก่อนปีใหม่
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจไม่ผ่านเสียง สว.ในวาระสามนั้น นายภราดร กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่ง สว.ห่วงประเด็นเรื่องห้ามแตะหมวด 1-2 รวมถึงการขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการห้ามเลือกตั้งทางตรง ซึ่งในชั้น กมธ. เข้าใจในสิ่งที่ สว.เป็นห่วง และอะไรที่เป็นปัญหา ก็เชื่อว่า กมธ.จะถอยกันคนละก้าว เพราะไม่เช่นนั้น เสียง สว.อาจไม่ถึง 67 เสียง












