POLITICS

‘นิวัติไชย’ เลขา ป.ป.ช. เผย ‘พิธา’ ยื่นบัญชีทรัพย์สินปี 62 ครบแล้ว

ส่วนปี 66 ยังเหลือเวลาก่อน 18 มิ.ย. นี้ ยัน ป.ป.ช. ดูที่เจตจำนงของทรัพย์สิน ส่วนกรณีหุ้นสื่อ ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (15 มิ.ย. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว The Reporters ถึงประเด็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อปี 2562 และเรื่องผู้จัดการมรดกของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

นายนิวัติไชย ระบุว่า เป็นกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อสมัยแรก เมื่อปี 2562 ซึ่งเบื้องต้นได้ยื่นบัญชีเข้ามาแล้ว อาจจะมีประเด็นที่ว่าไปถือหุ้นไอทีวี และจะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ว่าจะต้องมีการยื่นเพิ่มเติมหรือไม่ เมื่อแจ้งว่าต้องยื่นเพิ่มเติมก็ได้ยื่นมาเป็นใบหุ้นไอทีวีจำนวน 42,000 หุ้น มูลค่า 40,000 กว่าบาท ที่เป็นชื่อของนายพิธา แต่มีหมายเหตุว่าครอบครองในฐานะผู้จัดการมรดก พร้อมทั้งแนบคำสั่งศาลที่ให้นายพิธา เป็นผู้จัดการมรดก จึงถือว่ายื่นต่อ ป.ป.ช. แล้ว ส่วนจะจริงหนือไม่ก็ต้องตรวจสอบ เพราะเอกสารที่ยื่นมาเป็นการสิ่งที่ผู้ยื่นแจ้งมา

นายนิวัติไชย ระบุต่อว่า ทาง ป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบว่า เป็นการยื่นในฐานะอะไร ถ้าในฐานะผู้ยื่นเองก็ไม่มีปัญหา และตรวจสอบว่ามีอยู่จริงหรือไม่ หากมีใบหุ้นจริง ก็ตรวจสอบไปที่ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหุ้น รวมถึงสอบถามไปยังไอทีวีด้วย แต่ถ้าเป็นผู้จัดการมรดกก็มีข้อกฎหมายอยู่ โดยถือว่าครอบครองเองหรือไม่ หรือครอบครองในนามทายาท ตราบใดที่ยังไม่มีการแบ่งมรดก ทรัพย์สินก็ยังไม่ตกสู่ใครคนใดคนหนึ่ง ตามกฎหมายถ้ายังไม่แบ่งชัดเจน หรือมีพินัยกรรมชัดเจน จะถือเป็นกองกลางก่อน และต่อให้ตีความแบบนั้น ทางนายพิธา ก็ยื่นเอกสารมาแล้ว

ส่วนเรื่องของการตรวจสอบการถือหุ้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ หรือวินิจฉัยในเรื่องของคุณสมบัติต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่ง หรือผู้สมัคร ส.ส. ที่ดูว่าถือหุ้นจริงหรือไม่ และยังดำเนินการสื่ออยู่หรือไม่

“หลักกฎหมายของ ป.ป.ช. ดูที่เจตนาว่าขณะที่ยื่นบัญชี มีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่เท่าใด ณ วันที่เข้ารับตำแหน่ง และวันที่พ้นตำแหน่ง มีทรัพย์สินเท่าใด ส่วนในระหว่างนั้น จะขายก็ไม่ต้องยื่น แต่ถ้ามีข้อพิรุธว่าตอนยื่นมีทรัพย์สินร้อยล้าน แต่หลังจากรับตำแหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นพันล้าน ก็ต้องตรวจสอบ เพราะทรัพย์สินมากกว่าปกติ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกำหนดการในการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ ส.ส. ในปี 66 นายนิวัติไชย กล่าวว่า กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้ยื่นภายใน 60 วันหลังจากวันที่พ้นตำแหน่ง ส.ส. คือวันที่ 19 พ.ค. แต่ก็ขยายได้ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการขนายเวลาอีก 30 วัน จึงสิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. และนายพิธา ยังไม่ได้มายื่น

นายนิวัติไชย ระบุอีกว่า คำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ยื่นต่อ กกต. ให้ตรวจสอบเรื่องหุ้น และมีเรื่องให้ตรวจสอบการค้ำประกันที่นายพิธาไปค้ำ ของบริษัทจำนวนหลายร้อยล้าน แต่ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้งว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เป็นของเขาหรือไม่ เท่านั้น

“หนี้ค้ำประกัน เป็นสิทธิการเรียกร้องของลูกหนี้ จากผู้ค้ำประกันที่ยินยอมเข้าไปผูกพัน ซึ่งจะต้องยื่นหนี้สินที่มีอยู่จริง ไม่รู้ว่าลูกหนี้ผิดนัดไหม ยังไม่ได้เป็นหนี้จริง เป็นสิทธิเรียกร้องจากผู้ค้ำประกัน หนี้สินยังไม่เกิดก็ยังไม่โชว์ แต่ก็ต้องยื่นมาก่อน”

ส่วนเรื่องการโอนหุ้นไอทีวีที่มีการโอนหุ้นในวันที่ 25 พ.ค. นายนิวัติไชย ระบุว่า ต้องดูว่าเป็นวันไหน หากวันที่ยื่นยังมีหุ้นอยู่ก็ต้องยื่น ป.ป.ช. ตามกฎหมาย

Related Posts

Send this to a friend