POLITICS

‘พิเชษฐ์’ ตั้งเป้าคืนชีพสภาฯ เพิ่มงบประมาณ เพิ่มเวลาหารือ

‘พิเชษฐ์’ ตั้งเป้าคืนชีพสภาฯ ให้เข้าถึงประชาชน เพิ่มงบประมาณ เพิ่มเวลาหารือ จัดรัฐมนตรีพบ ส.ส. มากขึ้น เชื่อสภาไม่ล่ม เพราะเข้าใจตนทำไว้เยอะ

วันนี้ (4 ก.ค. 66) ที่อาคารรัฐสภา ภายหลังจากการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ ส่วนรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 คือนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 แถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบให้รับตำแหน่งรองประธานฯ โดยกล่าวว่า ในนามของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณสื่อมวลชนที่ติดตามการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภา ตนเองเพิ่งมารู้ตัวเมื่อคืนนี้ว่าถูกเสนอชื่อ พรรคเพื่อไทยคงเห็นว่าตนเองอยู่ในสภามานาน และเข้าประชุมโดยตลอด ดังนั้นจึงเห็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภามาก

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่าฝ่ายนิติบัญญัติของเราถือว่าเล็กมาก เมื่อเทียบกับฝ่ายตุลาการ หรือฝ่ายบริหาร ตนคิดว่าครั้งนี้ สภาจะต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาให้มีศักดิ์ศรี ทั้งสมาชิก องค์กร เพราะการทำงานที่ผ่านมา มีขีดจำกัดในเรื่องของงบประมาณที่น้อยมาก และถูกลดลงทุกปี สำนักงานสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ ปัจจุบันมีอยู่ 5 แห่ง เราจะพยายามรื้อฟื้นและขยายให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ได้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนในแต่ละจังหวัดได้เข้าถึงฝ่ายนิติบัญญัติ

ทั้งนี้ ยังต้องใช้บุคลากรและงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งในการดำเนินการ จึงมองว่าโอกาสนี้ฝ่ายประชาธิปไตยที่กำลังเริ่มฟื้นคืนชีพ ตนต้องการทำให้สภามีศักดิ์ศรีเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้มากขึ้น

“…ปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องสภาล่ม กฎหมาย รวมถึงการหารือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดช่องน้อยมาก ทำให้ ส.ส. ไม่สามารถออกไปสัมผัสประชาชนได้ มีเพียงการหารือ 2 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่มีค่ามากสำหรับ ส.ส.และประชาชน เบื้องต้นที่เพิ่มจาก 2 นาทีเป็น 3 นาทีก็ยังดี ตนเป็น ส.ส.เขต จึงรู้ดีว่าปัญหาของแต่ละพื้นที่ มีความยากที่จะนำเสนอต่อสภา จึงจะเพิ่มเวลาของการหารือดังกล่าว…” นายพิเชษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังเผยว่าตนคิดจะหารือกับประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ให้กระทรวงต่างๆ สามารถมาพบปะกับ ส.ส อย่างน้อย 1 ครั้งใน 6 เดือน เพื่อมาทำความเข้าใจเรื่องการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ

ส่วนเรื่องปัญหาสภาล่มนั้น ขึ้นอยู่ว่ามีการบริหารจัดการของรัฐบาลหรือไม่ หากพรรคฝ่ายรัฐบาลสามารถบริหารจัดการสมาชิกและเวลาต่างๆ ได้ ซึ่งตนก็เป็นคนที่ทำให้สภาล่มมาเยอะ ก็เข้าใจดีแล้ว พยายามจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นอีก

เมื่อถามว่า นายพิเชษฐ์ เมื่อครั้งเป็น ส.ส. ได้ประท้วงบ่อยครั้ง จะมีใครมาทำหน้าที่นั้นแทนหรือไม่ นายพิเชษฐ์ ตอบติดตลกว่า ตอนนี้ก็มี ส.ส.หลายคนมาเสนอตัวทำหน้าที่นั้นแล้ว นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ ยังแซวว่า “ทำเรื่องไว้เยอะนะ ระวังเขาจะเอาคืน”

เมื่อถามถึงการผลักดันกฎหมายต่างๆ ของพรรคก้าวไกล เช่น การเสนอแก้ไขมาตรา 112 สมรสเท่าเทียม หรือสุราก้าวหน้า นายพิเชษฐ์ ระบุว่า ต้องขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลว่าจะเห็นสมควรหรือไม่ กฎหมายที่เข้ามาพิจารณาจะผ่านการกลั่นกรองมาระดับหนึ่งแล้ว พร้อมกล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. ที่มาจากประชาชนเสนอ ตนยินดี และเชื่อว่าประธานสภาฯ และรองประธานฯ ทุกคนเห็นความสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับประชาชน เป็นอันดับแรก

Related Posts

Send this to a friend