‘พิธา’ ย้ำ พรรคร่วม เสนอ ‘วันนอร์’ ชิงประธานสภาฯ

‘พิธา’ ย้ำ พรรคร่วม เสนอ ‘วันนอร์’ ชิงประธานสภาฯ มั่นใจ ได้รับเสียงสนับสนุน ทั้งว่าที่ฝ่ายค้าน – รัฐบาล

วันนี้ ( 3 ก.ค. 66 ) ที่อาคารรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการประชุมสภา ผู้แทนราษฎร ในวันนี้ ว่าการประชุมในวันนี้น่าจะราบรื่นด้วยดี แต่ในช่วงเช้าพรรคก้าวไกลจะมีการประชุม ส.ส.เพื่อเน้นย้ำอีกครั้ง เพื่ออธิบายถึงกระบวนการทำงานและซักซ้อมการทำหน้าที่ของส.ส.พรรคในการโหวตลงคะแนนให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ตนเองได้ส่งเลขาธิการพรรคไปพูดคุยกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อีกครั้ง เกี่ยวกับการจะเสนอชื่อนาย วันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานสภาฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการการพูดคุยกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก หรือไม่เมื่อนายปดิพัทธ์จะไม่ถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาแล้ว และมีกระแสข่าวว่าจะได้รับการเสนอชื่อ เป็นรองประธานแทน นายพิธาระบุว่า ได้มีการทำความเข้าใจมาตลอด ย้ำว่า นายปดิพัทธ์ เป็นคนที่มีสปิริต เหมือนกับที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าหน้าที่ไม่ใช่หน้าตา อย่างไรก็ตาม นายพิธาระบุว่า พรรคได้มีการคิดถึงแนวทางในกรณีที่มีพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อประธานสภาแข่งกับนายวันมูหะมัดนอร์ แต่เท่าที่ดูเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ได้รับก็ตอบรับดี ทั้งจากฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลและที่ฝ่ายค้าน น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นายพิธายังระบุอีกว่า การรักษาเอกภาพและมิตรภาพของพรรคร่วม 8 พรรค เป็นสิ่งสำคัญและเป็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่า รวมทั้งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความหนักแน่น และคงเส้นคงวาของพรรคก้าวไกล ที่เห็นว่าหลักการสำคัญกว่าบุคคลและเมื่อได้มีการพูดคุยกับวันมูหะมัดนอร์ แล้ว ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้มีการรับหลักการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการบริหารสภาให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพและมีประชาชนรวมถึง เรื่องของกฎหมายที่สำคัญ

ส่วนกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงจุดยืนว่าหากประธานยังมีแนวคิดที่จะแก้ไขในมาตรา 112 จะไม่โหวตสนับสนุนนั้น นายพิธา ระบุว่าส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียดเรื่องนี้ เห็นเพียงพาดหัวข่าวของนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามนายธนกร ได้ชมว่านายวันมูหะมัดนอร์ เป็นคนที่มีประสบการณ์และมีความเหมาะสม

นายพิธายังย้ำว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยกันมาตลอดแต่การทำงานร่วมกันนั้นมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจึงจำเป็นต้องพูดคุยกันมากขึ้นแต่ก็เป็นสิ่งที่คุ้นเคยมาแล้วตลอดสี่ปีที่ผ่านมาจากการทำงานในกรรมาธิการต่างๆ ร่วมกันซึ่งแต่ละภาคส่วนก็มีวิธีคิดที่ต่างกัน ตนเองเชื่อว่าการทำงานด้วยความเข้าใจและความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน จะสามารถทำให้ภาวะผู้นำของแปดพรรคร่วมรัฐบาลสูงขึ้น

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย จะถือเป็นการปาดหน้าตำแหน่งประธานสภา ของพรรคก้าวไกลโดยพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า เป็นแค่การเสมือน เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ถือเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดเป็นของตัวเอง และได้พิสูจน์ตนเองมาตั้งแต่ปี 2522 ภายใต้สังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค และเขื่อมั่นว่านายวันมูหะมัดนอร์เป็นตัวของตัวเอง จะ ทำให้รัฐสภาก้าวหน้าและไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง

ทั้งนี้ นายพิธา ยัง ได้ตอบคำถามถึงความคืบหน้าในการรวบรวมเสียง ส.ว. เพื่อเสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ในการว่าขณะนี้ พรรคก้าวไกลได้เสียงส.ว.เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าการที่พรรคก้าวไกลยอมถอยเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นสัญญาณที่ดีที่ส่งถึง ส.ว.