ตะวัน-แบม อาการทรุดต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดภาวะช็อค แพทย์ต้องคอยเช็คทุกชั่วโมง

ทนายความ อัพเดทอาการ ตะวัน-แบม อาการทรุดหนักต่อเนื่อง เสี่ยงเกิดภาวะช็อค แพทย์ต้องคอยเช็คทุกชั่วโมง พร้อมยืนยัน ทั้งคู่ อดอาหารและน้ำต่อ เรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองทั้งหมด จี้ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตอบ เหตุไม่ให้เข้าเยี่ยม ทั้งๆ ที่รัฐมนตรีอนุญาต

วันนี้ (4 ก.พ. 66) เวลา 13:00 น. ที่อาคารพักผู้ป่วยยูงทอง 2 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ทีมศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย นายกฤษฎางค์ นุตจรัส พร้อมด้วยครอบครัวของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) 2 นักกิจกรรมที่ถอนประกันตัวเอง และอดอาหารกับน้ำเพื่อเรียกร้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงอาการ และชี้แจงถึงการตัดสินใจของทั้ง 2 คน

นายกฤษฎางค์ ระบุว่า วันนี้พ่อแม่ของตะวัน และแบม และทีมทนายความได้เข้ามาที่นี่ เนื่องจากได้ติดต่อไปที่กระทรวงยุติธรรม ภายหลังจากที่มีการตอบรับ เกี่ยวกับข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อขอเข้าเยี่ยมทั้ง 2 คนเป็นกรณีพิเศษในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเดิมที นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าดารการกระทรวงยุติธรรม ได้ติดต่อมาบอกว่าให้เข้าเยี่ยมได้

แต่เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ ทราบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า ปลัดกระทรวงฯ ปฏิเสธการเข้าเยี่ยม โดยให้เหตุผลว่าไม่มีระเบียบดังกล่าว ซึ่งตนก็อยากเตือนว่าความตายไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ และไม่เชื่อว่าโรงพยาบาลจะไม่อนุญาตให้พ่อแม่เข้าเยี่ยมเด็กได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องเข้าพบแพทย์ในวันนี้ เพราะตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีคำสั่งให้เข้าเยี่ยม

ในส่วนของอาการทั้ง 2 คนนั้น นายกฤษฎางค์ ระบุว่า จากการที่ได้เข้าเยี่ยมเมื่อวันศุกร์ ก็พบว่าทั้งสองมีอาการทรุดลงนั่งไม่ได้นาน ต้องนอนคุยกัน พูดช้า เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หน้ามืด ตาพร่า ซึ่งผลจากการตรวจล่าสุด คือ ค่าโพแทสเซียมของทั้งคู่ ต่ำกว่าคนปกติ เนื่องจากอดอาหาร และน้ำ ซึ่งของตะวันอยู่ที่ 3.3 และแบมอยู่ที่ 3.4 ในขณะที่ค่าน้ำตาลในเลือดของตะวันอยู่ที่ 65 และแบมอยู่ที่ 77 ส่วนค่าคีโตนสูงกว่าคนปกติ โดยตะวันอยู่ที่ 5.46 และแบมอยู่ที่ 5.47 เพราะร่างกายเริ่มย่อยกล้ามเนื้อ และไขมันมาเป็นอาหารทดแทน

นอกจากนั้นร่างกายอ่อนเพลีย อดอาการ และขาดน้ำ ซึ่งมีการจิบน้ำเพียงเล็กน้อย เพราะปากแตกไปหมด ซึ่งทั้งสองคนตัดสินใจไม่รับโพแทสเซียม วิตามิน และน้ำตาล แม้ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อตได้ โดยหมอ และพยาบาลมีความเห็นร่วมกันว่าจะให้เข้าตรวจทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่พ่อแม่ขอให้ตรวจชั่วโมงต่อชั่วโมง ซึ่งทางหมอ และพยาบาลก็รับปากในส่วนนี้ อีกทั้งทางแพทย์ยังได้ขออนุญาตคนไข้ เพื่อขอเจาะเส้นเลือดไว้ก่อน เพื่อป้องกันการหาเส้นเลือดยาก ในกรณีที่คนไข้เกิดภาวะช็อค ซึ่งทั้งคู่ยินยอม

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า พวกเราได้เล่าเรื่องเหตุการณ์ข้างนอกให้ทั้งสองฟังหลายเรื่อง ทั้งการแถลงของกระทรวงยุติธรรม และ กสม. ที่รับว่าจะคุยเรื่องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ส่วนหลายพรรคการเมืองบอกว่าจะรับเรื่องเกี่ยวกับ ม.112 และ ม.116 ในรัฐสภา รวมถึงอ่านสิ่งที่สำนักงานศาลยุติธรรมที่ออกมาแถลงเมื่อ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา และการพิจารณาเงื่อนไขการประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง โดยทั้งคู่บอกว่า สิ่งที่สำนักงานศาลยุติธรรมแถลงออกมานั้น ไม่ได้อะไรเลย

อีกทั้ง ยังได้ถามถึงการตัดสินใจของทั้ง 2 คนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งทั้งสองยืนยันว่าจะอดอาหาร และน้ำต่อไป จนกว่าผู้ต้องขังทางการเมืองอีกทั้งหมด 14 คนจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และขอให้ทนายความยื่นประกันตัวอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งพวกเขาต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรมระบุว่าใช้หลักสิทธิมนุษยชนในการพิจารณาคดีนั้นเป็นจริงแค่ไหน

“ทั้งสองยืนยันว่า จะอดอาหารต่อไป อดน้ำต่อไปจนกว่าศาลจะยอมให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังหรือจำเลยทางการเมืองที่ถูกขังอยู่ด้วย เข่น กลุ่มทะลุแก๊สและผู้ต้องขังตามมาตรา 112 ที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา” นายกฤษฎางค์กล่าว

ด้านพ่อตะวัน เปิดเผยว่า ค่อนข้างรู้สึกเป็นกังวล เนื่องจากทั้งคู่มีการอดอาหารมาเป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว และร่างกายที่มาเยี่ยมตั้งแต่แรกทรุดลงอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในตอนแรกยังมีอาการแจ่มใสมากกว่านี้มาก จนสังเกตได้ ซึ่งตะวันหน้าตอบลงจนเห็นกระดูก ซี่โครงเห็นถึงกระดูก และตนไม่แน่ใจว่าเวลาที่เหลือ หากร่างกายดูดไขมัน และกล้ามเนื้อจนหมด นั้นจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเกรงว่าจะเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ และอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากเจอก็ได้

ขณะที่ นายสุชาติ ภู่พงษ์ พ่อของแบม กล่าวว่า หมอบอกต้องรอผลรายละเอียดในวันจันทร์จึงจะสามารถบอกว่าทำอะไรได้ ซึ่งคนเป็นพ่อแม่รู้ว่า ตอนนี้อยู่ในสภาวะวิกฤติ คนที่ไม่ได้กินอะไรมา 2 อาทิตย์ พ่อกับแม่ก็กลัวว่าลูกจะไม่ได้เก่งที่จะอยู่ได้ถึงวันจันทร์ และฝากไปถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่าให้เก็บอนาคตของชาติเอาไว้ในแบบที่แข็งแรง สมประกอบ หลังจากนี้ลูกควกลับมาใช้ขีวิตแบบปกติไม่ได้ แต่ก็ยังอยากให้เขาเป็นคนมาร่วมต่อสู้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร มีองค์กรที่มีกระดูกสันหลังแข็งแรง การจะสร้างประเทศที่แข็งแรงได้ก็ต้องอาศัยความเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ

“แม้ภายนอกจะดูดี คุณหมอบอกว่ายังสามารถโต้ตอบได้ แต่คนเป็นพ่อแม่ รู้ว่าลูกเราไหวแค่ไหน” นายสุชาติกล่าว

ส่วน นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ แพทย์และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าค่าโพแทสเซียมที่ต่ำอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้น หากหยุดแล้วจะทำให้กลับมาเต้นใหม่อย่างไรต่อก็ยังเป็นคำถาม และเมื่อร่างกายมีน้ำไม่พอไตก็พยายามเก็บน้ำไว้ สารพิษก็จะคั่งในร่างกายและมีผลต่อสมองและอวัยวะอื่น ถ้าร่างกายรับไม่ไหวก็ช็อค หากช็อคแล้วก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากขนาดไหน เรียกร้องไปที่องค์กรยุติธรรมว่าจะทำอะไรก็ให้รีบทำ อย่าให้จบที่การสังเวยชีวิตของเด็กทั้ง 2 คน

อย่างไรก็ตาม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำคณะราษฎร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของพวกเขาเป็นข้อเรียกร้องที่หนักแน่นเที่ยงตรง และเป็นการแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ เพื่ออุทิศความเจ็บปวดไปให้ถึงศาล และขออย่าได้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะสังคมไทยได้รับพยานหลักฐานที่ชัดเจนแล้วว่า มีการแทรกแซงคดี จากกรณีของอดีตผู้พิพากษาของคณากร เพียรชนะ ที่ยิงตัวตายเพื่อบอกเกี่ยวกับปัญหานี้